จับแล้วหนุ่มหื่น ข่มขืนสาวลาว วัย 18 ลวงขยี้ 4 ครั้งในรีสอร์ต โมโหอวดรูปแฟนเก่า ขว้างโทรศัพท์พัง อ้างรู้จักทางเฟซบุ๊ก ใช้รูปคนอื่นหลอกให้เหยื่อตายใจ แถมยืมเงินไม่ยอมคืน ขอโทษผู้เสียหาย

ข่มขืนสาวลาว จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาว สปป.ลาว เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ว่าถูก นายต้น ชาวไทย อายุประมาณ 25-30 ปี ล่อลวงมาข่มขืนภายในห้องพักเลขที่ 17 ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ล่าหนุ่มแชทเฟซยืมเงิน สาวลาว วัย 18 ก่อนลวงไปข่มขืน 4 ครั้ง คารีสอร์ต

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 22 มี.ค. พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ พร้อมด้วย นายรุจน์ รังสี นายอำเภอบ้านไผ่ สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านไผ่, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น เข้าจับกุม นายเอกชัย พิระภาค อายุ 32 ปี ชาว ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร พร้อมของกลางรถจยย.ยามาฮ่าเบล สีดำ ทะเบียน บลร-954 ขอนแก่น ภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง ทางเข้าบ้านหนองแวงโอง ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.บ้านไผ่

จากการสอบสวน นายเอกชัย ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ได้ขอเป็นเพื่อนกับผู้เสียหายทางเฟซบุ๊กเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้รูปโปรไพล์ชายหนุ่มหน้าตาดี จากนั้นก็คุยกันมาอย่างต่อเนื่อง จนทราบว่าผู้เสียหายเลิกกับแฟน จึงขอคบและขอคุยกันในฐานะแฟน ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน จากนั้นก็ได้ขอยืมเงินผู้เสียหายหลายครั้งและยังไม่ได้คืน ก่อนเกิดเหตุทราบว่าผู้เสียหายเดินทางมาที่ประเทศไทย และจะกลับประเทศลาวพร้อมพี่สาว จึงพูดคุยกันและผู้เสียหายได้ตัดสินใจเดินทางมาหาที่ อ.บ้านไผ่ โดยไม่ได้มีการล่อลวงแต่อย่างใด

“แต่ด้วยความกลัวที่ผมเป็นคนรูปร่างหน้าตาไม่ดี กลับจะรับไม่ได้ จึงออกอุบายว่า เมื่อมาถึง บขส.แล้ว จะมีเพื่อนมารับไปส่งที่รีสอร์ต แล้วผมถึงจะตามไป แต่ความจริงแล้วคนที่ไปรับก็คือผมเอง ก่อนลงมือข่มขืนไป 4 ครั้ง และระหว่างที่อยู่ในรีสอร์ต ผมโมโหที่ผู้เสียหายชอบอวดภาพแฟนเก่า จึงหยิบโทรศัพท์ขว้างลงพื้นจนพังเสียหาย แล้วพากลับไปส่งที่ บขส.โดยที่ยังไม่ได้คืนเงิน และไม่ได้ตั้งใจที่ล่อลวงมาข่มขืน ที่ทำไปเพราะโมโหหึงหวง และฝากขอโทษผู้เสียหายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย” นายเอกชัย กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ขณะที่ พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ข่มขืนผู้เสียหายจริง จึงได้แจ้งข้อหาทั้งหมด 4 ข้อกล่าวหา แต่จะมีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อนหรือไม่นั้นต้องสอบสวนเพิ่มเติม เพราะในความเป็นจริงแล้วผู้ต้องหามีการใช้รูปโปรไฟล์ที่ไม่ใช่ตัวตนของตัวเอง อย่างไรก็ตามในประเด็นดังกล่าวต้องฝากไปถึงผู้ที่ใช้โซเชียลมีเดียระมัดระวังตัวเพื่มมากขึ้นด้วย


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน