ฟังจากปาก หนุ่มขี่จยย.หนีด่าน ชนอส.สาหัส ก่อนถูกทำร้ายคารพ. หลังได้ปล่อยตัว
หนุ่มขี่จยย.หนีด่าน / จากกรณีนายภิภัฎก์ษัตญา ถิรวิวัฒน์กุล อาสาสำรองกองร้อยรักษาดินแดน อำเภอเมืองชลบุรี ทำร้ายนายศรศักดิ์ ขอคตสำโรง อายุ 20 ปี ซึ่งนอนอยู่บนเตียงคนไข้ในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา
หลังไม่พอใจที่ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ชนเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน ขณะช่วยตำรวจตั้งด่านตรวจบริเวณถนนสายบายพาสเลี่ยงเมืองหนองมน หรือ ถนนข้าวหลาม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมานางประภาพร สุโรรัมย์ ได้รับความช่วยเหลือจาก นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดังดำเนินการ กระทั่งศาลจังหวัดชลบุรี อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. นายเอนก เวชศาสตร์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ได้นำเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มาใช้ในการปล่อยชั่วคราว โดยมีเหตุผล คือ เพื่อลดความเหลือมล้ำทางสังคม ผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ไม่มีหลักประกัน ได้มีโอกาสได้รับการปล่อยชั่วคราว
ช่วยลดปริมาณผู้ต้องขังในเรือนจำก่อนหรือระหว่างการพิจารณาคดี ช่วยเหลือให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมทางอาญา เพื่อเป็นไปตามนโยบายของประธานศาลฎีกาในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
และในวันนี้ญาติของนายศรศักดิ์ ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว(EM) เนื่องจากผู้ต้องหาและญาติเป็นบุคคลฐานะยากจน ศาลพิจารณาแล้วจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวนโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์(EM)
ล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น. ที่เรือนกลางชลบุรี นางประภาพร ผู้เป็นแม่มารอยืนรับนายศรศักดิ์ลูกชาย โดยเมื่อนายศรศักดิ์ก้าวพ้นประตูเรือนจำออกมา ก็ได้โผเข้ากอดพร้อมก้มกราบเท้าผู้เป็นแม่ โดยที่นางประภาพร ได้นำน้ำมนต์ในขวดที่เตรียมไว้เพื่อรดหัวลูกชายและนำสายสิญจน์มาผูกข้อมือลูกชายเพื่อเป็นสิริมงคล
นายศรศักดิ์เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์มากับเพื่อนคนละคัน เพื่อออกมาเติมน้ำมัน แต่ก็ยอมรับว่าได้ดื่มเบียร์มา 1 ขวด แล้วเห็นด่านตรวจ เกิดความกลัวจึงได้ขี่รถย้อนศร แต่มีเจ้าหน้าที่พุ่งออกมาขวางหน้ารถ ตนเบรกไม่อยู่จึงพุ่งชน ยืนยันว่าไม่ได้ขี่มาด้วยความเร็ว
จากนั้นตนก็ถูกรุมทำร้ายทั้งเตะต่อย ก่อนจะถูกนำมาส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา และถูกเจ้าหน้าที่กระทำดังกล่าวที่ใบหน้าเป็นจำนวนนับสิบครั้ง จนเปลือกตาและโหนกแก้มด้านซ้ายแตก เพราะหัวแหวนจากคนก่อเหตุสวมใส่ และขณะที่ถูกทำร้ายนั้นไม่มีผู้ใดห้ามแม้แต่เพียงคนเดียว
“ในเรื่องของคดีก็ขอให้เป็นไปตามของกระบวนของกฎหมาย ผมขอโทษคู่กรณี ไม่ได้มีเจตนาจริงๆ มีโอกาสก็จะขอไปเยี่ยม ส่วนเรื่องที่สังคมกล่าวหาว่าเป็นเด็กแว้นนั้น ผมไม่ได้เป็น ส่วนมากคนเขาจะมองว่าเป็น เหตุเพราะรถจักรยานยนต์แต่งแว้น เพราะผมชอบแต่งรถ” นายศรศักดิ์กล่าว