ผบ.ตร.สั่งเร่งตามล่า มือปืนควงเอ็ม 16 ยิงถล่มผู้ช่วย ส.ส.ภูมิใจไทย ดับคารถ

จากกรณีนายสุนทร เรืองแก้ว อายุ 50 ปี ชาว อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ในพื้นที่พัทลุง และเป็นผู้ช่วยนายฉลอง เทิดวีระพงษ์ ส.ส.พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ถล่มยิงเสียชีวิตคารถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ทะเบียน กก 1999 พัทลุง เหตุกิดขึ้นที่สวนผสม ริมถนนสายหัวถนนท่านช่วย-ชะรัด หมู่ 6 ต.นาท่อม อ.เมืองพัทลุง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

เมื่อวันที่ 17 ต.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก สภ.โคกชะงาย จ.พัทลุง ว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค.เวลาประมาณ 17.40 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายสุนทร เรืองแก้ว ถึงแก่ความตาย หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนพร้อมแพทย์ร่วมกันชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุเก็บวัตถุพยาน ลายนิ้วมือแฝง และรอยเลือดในที่เกิดเหตุ ทำแผน ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ตรวจสอบรูปพรรณคนร้ายว่าตรงกับข้อมูลอาชญากรของใครหรือไม่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนกำลังไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี และในวันนี้พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงตรวจสถานที่เกิดเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียดอีกครั้ง

รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนส่งศพไปให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำผลมาประกอบคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแส ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกล้องวงจรปิด การใช้โทรศัพท์ผู้เสียชีวิต รวบรวมพยานหลักฐานและจะสอบปากคำพยาน รวมทั้งญาติ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ฟันธงไปที่ประเด็นใด และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป

อีกทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้เร่งสืบสวนสอบสวนและติดตามผลการชันสูตรให้ได้โดยเร็ว เพื่อพิสูจน์ทราบถึงสาเหตุการตายที่แท้จริง สร้างความกระจ่างให้แก่ญาติ และพี่น้องประชาชนโดยเร็ว พร้อมทั้งมีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่ เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและการป้องกันเหตุ รวมถึงให้เพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการตรวจค้นอาวุธปืน ยาเสพติด รถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมายตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยว และนักลงทุนในพื้นที่

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน