จากกรณีรถไฟชนรถยนต์กระบะที่ถนนพาดเขตเทศบาลตำบลนาบอน อ.นาบอน นครศรีธรรมราช มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นปู่ย่า-หลาน 3 คน โดยที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บท-7603 ตรัง สภาพเสียหายทั้งคัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน เจ้าหน้าที่ได้งัดออกมาจากซากรถ นำส่ง รพ.นาบอน แล้ว ต่อมาทราบชื่อ คนเจ็บทั้ง 3 คน คือ นายสุทิน บัวทิพย์ อายุ 65 ปี นางเกษมสุข บัวทิพย์ อายุ 59 ปี และ ด.ช.ธรรมรินทร์ บัวทิพย์ อายุ 14 ปี เป็นปู่ย่าและหลาน อยู่บ้านเลขที่ 111 ม.1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง บาดเจ็บเล็กน้อยทั้ง 3 คน
ส่วนรถไฟขบวนที่ชนรถยนต์กระบะคันดังกล่าว เป็นรถด่วนขบวนที่ 167 สายกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ซึ่งหลังเกิดเหตุ รถไฟได้ไปจอดเทียบชานชาลาที่สถานีรถไฟนาบอน โดยการสอบสวนทราบว่า รถไฟขบวนดังกล่าวได้ออกจากสถานีหัวลำโพง กรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 8 ต.ค. มุ่งหน้าไปส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และกำลังชะลอเตรียมเทียบชานชาลาที่สถานีรถไฟนาบอน
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุที่ถนนพาดรางรถไฟแผงกั้นจุดตัดขบวนรถไฟได้ปิดถนน แต่นายสุทิน คนขับรถยนต์กระบะซึ่งมีนางเกษมสุข และ ด.ช.ธรรมรินทร์ มาด้วยกันไม่ยอมจอด ได้พยายามขับหลบแผงกั้นโดยไม่ดูว่ามีรถไฟกำลังแล่นมา พอมาถึงกลางราง จึงถูกรถไฟพุ่งชนอย่างจัง จนรถยนต์กระบะพังยับเยิน และโชคดีที่ทั้ง 3 คนปู่ย่าหลานได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทำให้ได้รอดตายหมู่อย่างหวุดหวิด
นายสุทิน ให้การกับตำรวจว่า ได้ขับรถมาจาก จ.ตรัง เพื่อ ไปส่ง ด.ช.ธรรมรินทร์ หลานชายที่ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นแล้วว่ามีแผงกั้นรถไฟ แต่คิดว่าน่าจะทัน ก่อนโดนรถไฟชนดังกล่าว ซึ่งที่รอดมาได้ เชื่อว่าเพราะบูชาพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ แขวนไว้กับตัว ทำให้รอดตายปาฏิหาริย์ดังกล่าว
ด้านนายธรรมรงค์ จริตงาม พขร.ผู้ควบคุมขบวนรถ ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังชะลอขบวนรถ เพื่อเข้าเทียบชานชาลาสถานีรถไฟนาบอน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดตัดไปราว 300 เมตร โดยที่เกิดเหตุมีระบบสัญญาณจุดตัดทำงานปกติ แต่มีรถยนต์กระบะขับหลบแผงกั้นเข้ามาขวางบนทางรถไฟ ซึ่งไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ จึงพุ่งชนดังกล่าว โชคดีที่ได้ชะลอขบวนรถไฟก่อน ทำให้ความรุนแรงลดลงและทั้งครอบครัวรอดชีวิตมาได้
