ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. ที่ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าคลองตัน (ร.ฟ.ท.) นายวิสุทธิ์ จันมณี กรรมการบริษัท และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด,นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มสายงานปฏิบัติการและซ่อมบำรุง,นายอธิพล ศาสตรานรากุล ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ และรักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (1),นายปิยะ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร และรักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (3) ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวเหตุการที่เกิดขึ้น
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า จากกรณีอุบัติเหตุที่ผู้หญิงรายหนึ่งตกลงบนรางรถไฟ สาเหตุขอให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าเป็นผู้โดยสารที่เดินทางสถานีทับช้างเพื่อไปลงสถานีพญาไทเป็นปกติ เพื่อไปทำงาน แต่รายละเอียดขอให้ตำรวจเป็นผู้ให้ข้อมูล โดยเบื้องต้นได้ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต 4 หมื่นบาท หลังจากนี้จะช่วยเหลือเยียวยาในเรื่องประกันชีวิต สำหรับการรักษาความปลอดภัยนั้นจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ทุกสถานีหัวขบวนกับท้ายขบวน จะช่วยดูแลผู้โดยสารที่รอขึ้นรถ ไม่ให้เหยียบล้ำเส้นเหลือง หากพบว่าบุคคลใดเกินเส้นเหลือง เจ้าหน้าที่จะเป่านกหวีดเตือนทันที อยู่ระหว่างปรึกษาว่าอาจจะต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ดูแลจุดตรงกลางเพิ่ม
นอกจากนี้ จะมีกดปุ่มฉุกเฉินที่อยู่ในขบวนรถ และชานชาลา โดยจากการสอบถามพบว่ากรณีดังกล่าวเป็นเหตุการณ์เพียงเสี้ยววินาที ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เห็นเหตุการณ์รีบกดปุ่มทันทีที่เกิดเหตุ ขณะที่รถไฟวิ่งมาในความเร็วปกติคือ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเห็นก็กดปุ่มฉุกเฉินให้รถหยุดทันที แต่ระยะทางน้อยกว่า100 เมตรประกอบกับจุดที่หญิงสาวตกลงนั้นเป็นต้น ชานชาลา ทำให้หยุดรถไม่ทัน ยืนยันนายสถานีเข้าไปช่วยทันทีเป็นคนแรก ไม่ได้ทิ้งเวลานานตามที่มีกระแสข่าว
ด้านนายสุเทพ พันธุ์เพ็ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มสายงานปฏิบัติการและซ่อมบำรุง ระบุว่าเตรียมทำประตูกั้นระหว่างรางรถไฟกับผู้โดยสาร ซึ่งขณะนี้มีที่สถานีสุวรรณภูมิที่เดียว เตรียมจะเซ็นต์สัญญาในเดือนสิงหาคมนี้ และสถานีแรกที่จะเริ่มทำและคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม-เมษายน2561 คือ สถานีพญาไท และต่อด้วยสถานีลาดกระบังโดยยอมรับว่าปัจจุบันผู้ใช้บริการมีจำนวนมาก 6 หมื่น 5 พันคนต่อวัน โดยเฉพาะเย็นวันศุกร์ และเช้าวันจันทร์ที่มีจำนวนมากถึง 7 หมื่นคน ซึ่งยืนยันว่าระบบการรักษาความปลอดภัยเป็นมาตรฐาน และวอนสื่อให้ความเป็นธรรมด้วย
