เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางมาทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 50 ที่วัดสระเกศฯ โดยมีบรรดาอดีตรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทีมทนาย พร้อมทั้งประชาชน อาทิ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมว.ประจำสำนักนายกฯ รายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำน นปช. นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตส.ส.ขอนแก่น นายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม. เป็นต้น เดินทางมาร่วมทำบุญในวันนี้ด้วย ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.สำราญราษฎร์คอยอำนวยความสะดวก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางมาถึงได้ตรงไปปักต้นผ้าป่า จากนั้นจึงเดินขึ้นภูเขาทองเพื่อสักการะพระธาตุ โดยระหว่างทางเดินขึ้นได้แวะตีฆ้องชัยสามครั้งและตีระฆังเพื่อเป็นสิริมงคล จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เข้ากราบสักการะองค์พระประธานประจำพระธาตุ ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เป็นผู้สร้างถวายไว้ จากนั้นถวายผ้าป่าและถวายสังฆทานแก่พระสงฆ์จำนวน 9 รูป จากนั้นเดินขึ้นถวายผ้าห่มพระธาตุโดยได้ทำประทักษิณเดินวนรอบพระธาตุ 3 รอบด้วย
จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 50 โดยระบุว่า ไม่ได้เป็นปีแรกที่พบเจอปัญหาอุปสรรค วันเกิดปีนี้คงใกล้จะถึงเรื่องที่หนักหนาของชีวิต ที่เราต้องสร้างพลังใจของเราให้เข้มแข็ง หลายครั้งที่เห็นว่าเรายิ้มได้ แต่บางครั้งก็ไม่สามารถที่จะระงับความรู้สึกได้ ต้องขอโทษที่ทำให้เห็นน้ำตาในวันนี้ ซึ่งได้พยายามอย่างเต็มที่เพราะไม่ต้องการให้ผู้อื่นเป็นห่วง แต่ก็เป็นเหตุสุดวิสัย อย่างไรก็ตาม ตนพยายามที่จะเข้มแข็ง และเชื่อว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้ตนสามารถผ่านอุปสรรคต่างๆได้ สำหรับวันเกิดปีนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พี่ชายได้โทรศัพท์พร้อมส่งดอกไม้มาให้กำลังใจตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยอยากให้เราสดชื่น และท่านอวยพรให้น้องพ้นทุกข์พ้นโศก และบอกพี่รักน้องนะ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวห่วงใยสถานการณ์บ้านเมืองว่า ส่วนตัวเป็นห่วงบ้านเมืองและเชื่อว่าผู้อื่นก็เป็นห่วงบ้านเมืองเช่นกัน เพราะเราทุกคนรักประเทศไทย และอยากเห็นประเทศมีความสุข ให้ทุกคนหันมามองหน้ากัน ไม่อยากเห็นบรรยากาศที่มีการต่อว่าหรือทำให้ทุกฝ่ายเกิดการแบ่งแยก พร้อมขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้คุ้มครองคนไทย และประเทศไทยให้มีความรักและสามัคคี ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนอยากเห็น และสิ่งที่สำคัญอยากให้ทุกคนกินดีอยู่ดี มีกินมีใช้อย่างพอเพียง ทั้งหมดถือเป็นความฝันสูงสุด แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด อย่างไรก็ตาม ถ้าหากทุกคนทุกฝ่ายช่วยกันก็เชื่อว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการต่อสู้คดีในโครงการรับจำนำข้าว โดยระบุว่าตนคาดหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะทุกอย่างอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาคดี สิ่งใดที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะร้องขอต่อศาล หวังว่าศาลจะเมตตาให้ความเป็นธรรม โดยเห็นว่าหากผู้ที่ดำเนินนโยบายได้รับผลเช่นนี้ ก็เชื่อว่าจะไม่มีใครกล้าดำเนินการ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
“แต่ก็ไม่เป็นไร ในเมื่อดิฉันได้ดำเนินการทุกอย่างแล้ว ฉันก็รู้ว่าที่ฉันทำเพื่ออะไร สิ่งต่างๆ เหล่านั้น หวังว่าจะมีคนเข้าใจ มีคนเห็นใจและให้ความเป็นธรรมบ้าง ขอให้เห็นความตั้งใจของเราอย่ามองแค่ปลายทาง อย่าเอาเหตุการณ์ปัจจุบันมาตัดสินการกระทำในอดีตเลย เพราะบางครั้งสิ่งต่างๆ ได้เดินผ่านไปแล้ว หลังจากนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าผลการวินิจฉัยคดีจะออกมาในทางลบหรือไม่ แต่ก็พยายามเข้มแข็งตลอดเวลาที่ถูกดำเนินคดี และนำพยานขึ้นสู่ศาลทุกนัด ความเข้มแข็งเรามีขีดจำกัด ถ้าใครเจออย่างดิฉัน ก็คงจะหนักหนาเหมือนกัน หวังว่าอีกไม่กี่นัดที่เหลือจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคได้ และคงได้รับความยุติธรรม ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจที่หน้าศาลเกือบทุกนัดด้วยความยากลำบาก ขอบคุณในสิ่งความเมตตาคนชื่อยิ่งลักษณ์มาโดยตลอด หวังว่าจะได้มีโอกาสขอบคุณทุกคนด้วยตัวเองที่ประเทศนี้ และได้ทำบุญวันเกิดในปีหน้าอีก” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการให้สัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ร้องไห้พร้อมทั้งหลั่งน้ำตา และมีอาการสะอึกสะอื้นเป็นระยะ ทั้งนี้ หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินลงมาจากภูเขาทอง ได้มีประชาชนจำนวนหนึ่งรอต้อนรับ พร้อมร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย
จากนั้นเวลา 11.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินทางมาสักการะศาลหลักเมือง พร้อมทั้งจุดตะเกียงน้ำมันพระประจำวันเกิด เพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อให้ชีวิตสดใส ราบรื่น
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Charan Ampornklinkeaw
