จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปเหตุการณ์รถโตโยต้า ยาริส ทะเบียน สย 9119 กทม. ที่มีนายนิอับดุลอาชิส มิเงาะ อายุ 35 ปี ขับเข้ามาปาดหน้าจอดขวางรถกะบะอีซูซุ สีดำ ทะเบียน บร 8824 สระบุรี ของนายอนุสรณ์ สิริพลภักดี อายุ 24 ปี โดยมีภรรยาและลูกสาว 2 ขวบนั่งอยู่ในรถ ก่อนนายนิอับดุลอาชิสคว้าไม้เบสบอลมาทุบกระจกรถกระบะ แล้วมีการขับรถไล่ล่ากันจนไปชนรถกระบะนิสสันสีดำ ทะเบียน ชพ 896 กทม ที่จอดอยู่ข้างทางเสียหายอีกคัน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์

สำหรับความคืบหน้า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 มิ.ย. ที่สน.คันนายาว นายนิอับดุลอาชิส มิเงาะ เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว และร.ต.อ.หรัสชัย ศรีสุมัง รองสว.(สอบสวน) สน.คันนายาว เพื่อรับทราบ 3 ข้อหา กรณีใช้ไม้เบสบอลฟาดรถกระบะคู่กรณีและขับรถเฉี่ยวชน ประกอบด้วย 1.ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น 2.ทำให้เสียทรัพย์ และ 3.ทำร้ายร่างกายผู้อื่น

ด้านนายนิอับดุลอาชิสเผยว่า เหตุการณ์นี้แบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกเป็นจังหวะที่รถกระบะกลับรถและมาเฉี่ยวชนรถยาริสของตัวเอง ในลักษณะคล้ายเบียดจนเกือบขึ้นเกาะกลางแล้วขับหลบหนีไป ส่วนช่วงที่ 2 เป็นจังหวะที่ตนขับรถยาริสไปปาดหน้า เพราะคิดว่าชนแล้วหนี ก่อนหยิบไม้เบสบอลหวังป้องกัน เพราะไม่รู้ในรถจะมีใครอีกหรือไม่ เนื่องจากรถกระบะติดฟิล์มดำ พอตนลงรถไปก็ถือไม้เบสบอล และใช้มือเคาะกระจกรถ หวังให้คู่กรณีลงมาเคลียร์ที่เฉี่ยวชน แต่ไม่มีทีท่าจะเจรจา แถมยังถอยรถและเลี้ยวหนีไป จังหวะนั้นจึงใช้ไม้เบสบอลฟาดไป 1 ครั้ง โดยไม่ตั้งใจให้โดนกระจกและไม่ได้หวังอะไร แค่ต้องการให้รถกระบะหยุดเท่านั้น

นายนิอับดุลอาชิสเผยอีกว่า ส่วนช่วงที่ 3 หลังจากรถกระบะหนีไปประมาณ 500 เมตร ตนได้ตัดสินใจขับรถยาริสหวังจะไปจอดขวางดักหน้า เพื่อให้คนขับรถกระบะลงมาเจรจา แต่คู่กรณีเหมือนจะไม่เคลียร์และพยายามขับรถหนี จึงได้ขับรถไปปาดและลงไปถามว่าจะหนีทำไมด้วย

นายนิอับดุลอาชิสเผยต่อว่า ตอนนี้อยากให้เรื่องนี้จบ และความจริงน่าจะมีคลิปที่ยาวกว่านี้ เมื่อมีการนำคลิปที่คล้ายถูกตัดต่อออกมาเผยแพร่ ทำให้ตนเหมือนเป็นอันธพาล แต่ความจริงตนมีเหตุและผลในการกระทำ ส่วนกรณีที่รถกระบะมาเฉี่ยวชนก่อนบริเวณจุดกลับรถนั้น เมื่อมีคลิปลักษณะนี้ออกมาจนทำให่ตัวเองเสื่อมเสีย จึงจำเป็นต้องแจ้งความกลับรถกระบะ ในกรณีขับรถมาเฉี่ยวชนและประมาท

นายนิอับดุลอาชิสเผยว่า ถ้าญาติของคนขับรถกระบะไม่นำคลิปไปเผยแพร่ การเจรจาก็น่าจะจบไปแล้ว แต่ต้องขอโทษญาติพี่น้องและอู่รถที่มีสติ๊กเกอร์อยู่หลังรถ เพราะโดนโจมตีหนักมาก ส่วนเรื่องค่าเสียหายหลังจากนี้ ต้องให้ตำรวจเป็นฝ่ายพิสูจน์ เพราะความจริงรถกระบะมามาชนรถของตนก่อน ตนไม่ได้ไปชนรถกระบะก่อน แต่หากมีข้อพิสูจน์ออกมาว่าเป็นเราประมาท ก็พร้อมยอมรับ

เมื่อถามถึงร่องรอยการชนท้ายรถยาริส นายนิอับดุลอาชิสเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ตนได้โดนรถอีกคันชนท้ายมาก่อน กระทั่งในวันเกิดเหตุมาโดนรถกระบะเฉี่ยวชนอีกครั้ง ซึ่งหลังเกิดเหตุตนยังได้ยกมือไหว้ขอโทษคนขับรถกระบะด้วย เพราะไม่รู้ว่ามีลูกอยู่ในรถ เนื่องจากตนก็มีลูกเหมือนกัน ส่วนการเจรจาหลังจากนี้ทั้งในส่วนของคนเจ็บและรถที่เสียหายนั้น ตนก็ไม่ใช่คนรวย แต่พร้อมแค่ไหนก็พร้อมจะให้ ถ้าตนผิดคนเดียวจะไม่ว่า แต่นี้เขาก็ผิดด้วย จะให้รับคนเดียวก็ไม่แฟร์ พร้อมยืนยันไม่ได้เสพยาและยินดีให้ตรวจปัสสาวะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน