ความคืบหน้ากรณี น.ส.ลัดดา จินดาแก้ว อายุ 33 ปี เหยื่อฆาตกรรมโหดถูกฆ่าหมกในห้องน้ำ โรงเรียนบ้านหนองคล้า ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เหตุเกิดเย็นวันที่ 24 ก.ค.60 ต่อมานายวินิจ อัครสุวรรณกุล ผอ.ร.ร.ตกเป็นผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัว โดยให้การปฏิเสธ และยื่นประกันตัวออกไป
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 203 ม.21 ต.เขาวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งเป็นตั้งศพของ น.ส.ลัดดา ผู้ตาย บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีเพียงพ่อแม่พี่น้องและญาติๆเพียงไม่กี่คนอยู่ภายในงาน เป็นที่น่าสังเกตว่า บรรดาญาติๆเริ่มมีความเครียดกับข่าวที่ออกมาหลายกระแส เกรงว่าคดีนี้จะเงียบหาย และครอบครัวผู้ตายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายอภิชัย อภิบาลศรี อดีตสามีผู้ตาย กล่าวว่า ตอนนี้ครอบครัวก็มีความเครียดเพราะมีคนมากหน้าหลายหน้า อาจจะเป็นพวกของผู้ต้องหาก็ได้ ทำให้ครอบครัวค่อนข้างระวังในการให้ข้อมูลมากขึ้น แต่ทั้งนี้ ครอบครัวก็เชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่ตำรวจมีว่าจะสามารถเอาผิดกับนายวินิจ ผู้ต้องหาได้ อีกทั้งนายวรพันธุ์ สุวรรณยุหะ นายอำเภอวังวิเศษ รับปากว่าจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เงียบหาย
นายอภิชัยกล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนรู้ว่าคนมีการศึกษาสูงก็ไม่ใช่เป็นคนดีเสมอไป หากคนนั้นสามัญสำนึกไม่ดีมาตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม ตนแต่งงานอยู่กับน.ส.ลัดดามากว่า 12 ปี ไม่เคยพูดจาว่าร้าย ไม่เคยมีปากเสียงกัน เพราะตนไม่ค่อยพูด และไม่เคยลงมือตบตีทำร้ายร่างกายแม้สักครั้งเดียว แต่จู่ภรรยาผู้เป็นที่รักกลับถูกคนอื่นมาฆ่าตาย ความรู้สึกนี้มันพูดไม่ออกจริงๆ เวลากลางคืนลูกตนจะนอนปกติเขาจะเล่นเส้นผมแม่เขาเป็นประจำก่อนนอน ตอนนี้ตนต้องเป็นตัวแทนให้ลูกเล่นเส้นผมจนกว่าลูกจะหลับ เป็นความรู้สึกที่สุดแสนทรมาน
ด.ช.ฟิล์ม (นามสมมุติ) วัย 7 ขวบ ลูกชายผู้ตาย เล่าว่า ว่าวันเกิดเหตุแม่บอกให้หนูไปโรงเรียนบ้านหนองคล้า และเมื่อไปถึง ขณะหนูเล่นอยู่ที่สนามเด็กเล่น ไม่ไกลจากห้องน้ำเท่าไร หนูเห็นลุงผอ.ฉิม (ชื่อเล่นนายวินิจ) ใส่เสื้อสีน้ำตาลแขนสั้น และนุ่งกางเกงสีดำ เดินไปที่ห้องน้ำกับแม่
“พอมืด หนูจะหาแม่ เดินไปหาแม่ที่ห้องน้ำ ก็เห็นแม่นอนอยู่ ลุงผอ.ฉิมก็สั่งห้ามหนูเข้าไป บอกว่ากลัวลื่นและมืดด้วย แต่ลุงผอ.ฉิมไม่ช่วยแม่เลย ขับรถคันสีขาวออกไป หนูก็เดินกลับบ้านคนเดียว พ่อบอกว่าแม่ไปสวรรค์ เมื่อไหร่จะกลับมา ผมคิดถึงแม่ อยากให้แม่กลับมาเร็วๆ”ด.ช.ฟิล์มกล่าวทั้งน้ำตา
มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานว่าจะสามารถเอาผิดนายวินิจ ผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน โดยมีหลักฐานสำคัญคือ กล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์ตอนที่นายวินิจเดินเข้าไปที่ห้องน้ำพร้อมกับผู้ตาย และอยู่ในห้องน้ำ 18 นาทีก่อนจะขับรถออกไป คำให้การของลูกชายผู้ตายที่ระบุว่าเห็นนายวินิจเดินไปที่ห้องน้ำกับมารดา และสุดท้ายเจ้าหน้าที่ได้เก็บชิ้นเนื้อเยื่อจากเล็บของนายวินิจ ผู้ต้องหา และเนื้อเยื่อจากเล็บของผู้ตาย โดยส่งไปตรวจดีเอ็นเอว่าตรงกับนายวินิจและน.ส.ลัดดา ผู้ตายหรือไม่ คาดว่าจะทราบผลในเร็วๆนี้
