จากกรณี คนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาบึงกาฬ ภายในห้างเทสโก้โลตัส ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ทองรูปพรรณไป 90 บาท รวมมูลค่า 2.7 ล้านบาท จากนั้นตำรวจสามารถจับกุม นายเฉลิมพงศ์ หรือเสือ เพชรตะกั่ว อายุ 20 ปี เอาไว้ได้แต่ไม่พบของกลาง นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คนคือ นายรังสรรค์ วิเศษดินทอง อายุ 36 ปี ที่เอาทองไป ก่อนดวลปืนกับตำรวจจนถูกยิงบาดเจ็บสาหัสที่ จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางทองจำนวนหนึ่ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ดวลปืนสนั่นกลางเมืองของแก่น คู่หูคนร้ายชิงทอง 90 บาท จากบึงกาฬ กระสุนเจาะหัว

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 3 ส.ค. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ

โดย นายรังสรรค์ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งอาการล่าสุดแพทย์ ร.พ.ขอนแก่น กำลังผ่าตัดช่วยชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงปะทะในเหตุการณ์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอาการปลอดภัย พบทองคำรูปพรรณในกระเป๋าสะพายของ นายรังสรรค์ 86 เส้น เป็นสร้อยคอทองคำยังไม่ทราบน้ำหนักจำนวน 20 เส้น สร้อยข้อมือทองคำยังไม่ทราบน้ำหนัก 66 เส้น และอาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม.

จากนั้น พล.ต.อ.สุชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ได้สอบสวน น.ส.ศศิธร อุดมลาภ อายุ 25 ปี ชาว ต.ค้อใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ภรรยาของ นายรังสรรค์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอีกรายที่ร่วมกันปล้นร้านทอง พร้อมทั้งเชิญเจ้าของร้านทองใน จ.ขอนแก่น มาตรวจสอบทองคำรูปพรรณที่ตรวจยึดได้จากในกระเป๋าสะพายของ นายรังสรรค์ ว่าเป็นของจริงหรือปลอม แต่ยังไม่ได้ตรวจนับน้ำหนักทอง

พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา นายเฉลิมพงศ์ ก่อเหตุปล้นร้านทองเยาวราช สาขาบึงกาฬ ภายในศูนย์การค้าห้างเทสโก้โลตัส จ.บึงกาฬ คาดว่าได้ทองรูปพรรณ ทั้งสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนักรวมกว่า 90 บาท มูลค่ากว่า 2.7 ล้านบาท และมีบางส่วนตกหล่นอยู่ตามพื้นภายในร้าน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงกาฬ สามารถติดตามจับกุม นายเฉลิมพงศ์ ได้ ซึ่งให้การว่านำทองคำทั้งหมดให้กับ นายรังสรรค์ และ น.ส.ศศิธร ตำรวจจึงได้สืบสวนขยายผลทราบว่าผู้ต้องหาอีก 2 ราย ได้ขับรถจยย.หลบหนีมาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และพบว่าเช่าห้องพักอยู่ภายในหอพักแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยใช้บัตรประชาชนของคนอื่นในการใช้เช่าห้อง

“เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนแกะรอยจนพบ นายรังสรรค์ กำลังขี่รถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บนถนนกัลปพฤกษ์ ด้านข้าง ม.ขอนแก่น จึงแสดงตัวจับกุม แต่ นายรังสรรค์ ได้ยิงปืนเปิดทาง ทำให้ตำรวจยิงป้องกันตัวและเกิดการปะทะกันกว่า 10 นัด ก่อนที่ นายรังสรรค์ จะถูกยิงเข้าที่ศีรษะล้มลงบนฟุตปาธ พร้อมของกลางทั้งหมด” พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าว

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอาการปลอดภัย พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอีกทีมได้ลงพื้นที้ไปนำตัว น.ส.ศศิธร ภรรยาของ นายรังสรรค์ มาสอบสวน เบื้องต้น น.ส.ศศิธร ให้การว่า ทำหน้าที่มาดูลาดเลาล่วงหน้าให้กับ นายรังสรรค์ และวางแผนร่วมกันทั้ง 3 คน โดย นายเฉลิมพงศ์ เป็นคนเข้าไปก่อเหตุปล้นทอง และนำทองมาให้กับ นายรังสรรค์ แต่ไม่รู้เห็นเรื่องการขายทองแต่อย่างใด

พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวต่อว่า นายรังสรรค์ และภรรยาได้ใช้บัตรประชาชนของผู้อื่น เพื่อแสดงตัวก่อนเข้าพักที่หอพักแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น จึงทำให้เกิดช่องโหว่ ในการติดตามจับกุม โดยหลังจากนี้จะดำเนินคดีกับห้องพักที่ไม่มีความรอบคอบในการตรวจสอบผู้เข้าพัก ว่าตรงกับบัตรประชาชนที่แสดงหรือไม่

พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมให้ครบทุกประเด็น ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานเจ้าของร้านทองผู้เสียหายมานับทองว่าตรวจยึดกลับคืนได้เป็นจำนวนน้ำหนักทองเท่าไหร่ และที่หายไปมีเท่าไหร่ ก่อนจะนำของกลางทั้งหมดพร้อมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ต่อไป

อ่านข่าว จับไอ้เสือปล้นทอง! ควงปืนบุกเข้าร้านกลางห้างกวาดไป 90 บาท เค้นคลายทองของกลาง(คลิป)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน