เมื่อวันที่ 16 ส.ค. จากกรณีนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนและร้องทุกข์กับสื่อมวลชนว่า น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในอ.กันทรลักษ์ เพื่อนสาวคนสนิท อายุ 44 ปี ของน.ส.จุฑาภรณ์ เปิดเผยว่า น.ส.จุฑาภรณ์รู้จักกับคนมีสีคนหนึ่งยศร้อยเอก เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2559 จากนั้นก็มีสนิทสนมกันซึ่งตนทราบมาโดยตลอด ต่อมาคนมีสีคนดังกล่าวได้ขอยืมเงินจากน.ส.จุฑาภรณ์หลายครั้ง ครั้งละ 20,000-30,000 บาท รวมหลายครั้ง ซึ่งเป็นยอดเงินยืมที่สูงพอสมควร โดยตนได้เตือนน.ส.จุฑาภรณ์ว่าควรจะตีตัวออกห่างได้แล้ว เพราะเกรงว่าจะเกิดสิ่งที่ไม่ดีไม่งามขึ้นมา หลังจากที่ตนเตือนนั้น น.ส.จุฑาภรณ์ก็ห่างหายจากตนไป 4-5 เดือน กระทั่งเมื่อเดือน มิ.ย. 2560 น.ส.จุฑาภรณ์ได้ชวนตนว่าขอให้ไปเป็นเพื่อน เพื่อจะไปพบกับคนมีสีระดับสูงคนหนึ่งที่จ.อุบลราชธานี เพื่อเข้าร้องทุกข์เพราะคนมีสีที่ยืมเงินของน.ส.จุฑาภรณ์ไปแล้วไม่ยอมคืนให้ อีกทั้ง น.ส.จุฑาภรณ์ได้ทวงเงินอย่างต่อเนื่อง จนคนมีสีดังกล่าวได้นำบัตรเอทีเอ็มมามอบให้ แต่เมื่อน.ส.จุฑาภรณ์นำไปกดเงินก็พบว่าไม่มีเงิน
เพื่อนคนสนิท กล่าวต่อว่า หลังจากตนทราบเรื่อง ก็แจ้งให้คนมีสีคนดังกล่าวทราบ เพื่อขอให้นำเงินมาคืนให้น.ส.จุฑาภรณ์ แต่ว่ายังไม่ทราบผล พอวันที่ 29 มิ.ย. 2560 น.ส.จุฑาภรณ์ได้ส่งไลน์รวมทั้งโทรศัพท์มาชักชวนให้ตนไปเป็นเพื่อนเพื่อดื่มน้ำเย็น ๆ ที่ห้องของคนมีสีระดับสูงที่จ.อุบลราชธานี แต่ตนผลัดไปว่าขอให้เป็นสัปดาห์หน้า เนื่องจากติดงานหลายอย่าง จากนั้น วันที่ 3 ก.ค. 2560 หลังจากที่ น.ส.จุฑาภรณ์มาส่งลูกที่โรงเรียนแล้ว ทราบว่าเดินทางไปที่จ.อุบลราชธานี แต่ไม่ทราบว่าไปที่ใด ซึ่งน.ส.จุฑาภรณ์ เพื่อนของตนคนนี้ เป็นคนดี รักครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะรักลูกมาก จะไปไหนไกล ๆ ห่างลูกไม่ได้ ซึ่งการที่น.ส.จุฑาภรณ์จะไปร้องทุกข์กับคนมีสีระดับสูง เพื่อให้ช่วยติดตามทวงเงินจำนวนมากจากคนมีสียศร้อยเอก คาดว่าจะเป็นปมสังหารอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้น.ส.จุฑาภรณ์ถูกอุ้มหายตัวไปในครั้งนี้
“ในช่วงกลางคืนแทบทุกวัน ตนจะฝันว่าน.ส.จุฑาภรณ์มานั่งก้มหน้าอยู่หน้าบ้าน ซึ่งตนก็ร้องเชื้อเชิญให้เข้าบ้าน แต่น.ส.จุฑาภรณ์ก็ไม่เข้า แล้วยกมือ 2 ข้างขึ้นมา ทำท่าเหมือนกับตะกุยดิน แล้วก็จางหายไป รวมทั้งร้องไห้คร่ำครวญบ่นว่าคิดถึงลูกสาวมาก ตนคาดว่า น.ส.จุฑาภรณ์อาจจะถูกคุมขังอยู่ที่ใดที่หนึ่งภายในเขต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี” เพื่อนคนสนิท กล่าว
