เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายพลกฤต หรือเอส วิเศษ อายุ 29 ปี อดีตสิบเอก สังกัดศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายพหลโยธิน จ.ลพบุรี เป็นคนลงมือฆ่า”น้องพลอย”พลอยนรินทร์ ผลิผล โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย คุมตัวผู้ต้องหาอย่างอย่างแน่นหนา

โดยตำรวจนำผู้ต้องหาไปประกอบคำรับสารภาพ ทั้ง 8 จุด โดยจะเริ่มทำในจุดที่ 1 เป็นจุดที่นายเอสลักพาตัวน้องพลอย ไปกระทั่งจุดสุดท้ายจุดที่ 8 อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด 3 จังหวัดได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี และจังหวัดสระบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายเอสมาทำแผนจุดที่ดักอุ้มตัวน้องพลอยขึ้นรถนิสสัน โดยมีประชาชนหลายร้อยคนรอดูหน้าฆาตกรโหด พร้อมตะโกนสาบปแช่งเสียงดังสนั่น เรียกร้องให้ลงโทษประหารผู้ต้องหาให้ตายตกไปตามกัน นอกจากนี้นางพัชรี และนายวิชา แม่และพ่อของน้องพลอยก็มารอดูหน้าฆาตกรด้วย

ตำรวจคุมตัวนายเอสลงจากรถตู้แล้วไปทำแผนตอนที่ดักอุ้มน้องพลอยขึ้นรถเก๋ง เอาจักรยานของน้องพลอยใส่ที่เบาะหลัง ก่อนที่จะเกิดปากเสียงกันรุนแรงแล้วลงมือบีบคอฆ่าน้องพลอยจนเสียชีวิต

จากนั้นตำรวจได้นำตัวนายเอสกลับไปขึ้นรถตู้ ท่ามกลางเสียงตะโกนสาปแช่ง นายวิชาได้เข้าไปที่รถตู้สอบถามนายเอสว่าทำไมต้องฆ่าน้องพลอย เช่นเดียวกับนางพัชรีที่เข้าไปถามเช่นเดียวกัน โดยนายเอสได้แต่ร้องไห้บอกว่า “ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตำรวจคุมตัวนายเอสขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางไปทำแผนจุดต่อไปซึ่งเป็นจุดที่นำจักรยานของน้องพลอยไปทิ้ง ปรากฏว่าชาวบ้านหลายร้อยคนได้กรูเข้าล้อมรถตู้ของผู้ต้องหา ตะโกนด่าทอฆาตกรอย่างดุเดือด มีหญิงสาวและผู้ชายหลายคนซึ่งคาดว่าเป็นญาติของน้องพลอยฝ่ากลุ่มตำรวจเข้าไปตะโกนด่านายเอสด้วยความโกรธแค้น จนตำรวจต้องเข้าล็อกตัวไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรง

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน