วันที่ 19 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุกำแพงปูนล้มลงมาทับคนงานที่กำลังก่อสร้างได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่บริเวณสถานที่ก่อสร้างอาคารโกดังสินค้าของบริษัท เคอรี่ โลจิสติก หมู่ 7 ถนนคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยอาสามูลนิธิปอเต็กตึ้ง และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3
ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารโกดังสินค้าของบริษัทดังกล่าวซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้นที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พบคนงานก่อสร้างจำนวนมากช่วยกันยกเศษปูนที่ก่อสร้างผนังกำแพงที่ก่อด้วยอิฐบล็อก และช่วยกันนำร่างผู้บาดเจ็บ 3 ราย ที่ถูกแผ่นปูนกำแพงล้มลงมาทับ รายแรกเป็นชายไม่ทราบชื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส เพื่อนคนงานได้ช่วยกันนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลบางพลีไปก่อนหน้าแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บรายที่สอง ชื่อนายอภิศักดิ์ กอกหวาน อายุ 18 ปี ถูกกำแพงปูนล้มทับที่ลำตัวจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และผู้บาดเจ็บรายที่สาม ชื่อนางสมพร ศรีมุลตรี อายุ ประมาณ 35 ปี ถูกกำแพงปูนล้มทับลำตัวจนไม่สามารถขยับร่างกายได้เช่นกัน
ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้งหมดเป็นคนงานก่อสร้างของบริษัทอิตาเลี่ยนไทย เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่งรักษาโรงพยาบาลบางพลีทั้งสองราย ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นกำแพงปูนที่เพิ่งก่อด้วยอิฐบล็อกมีความสูงประมาณ 2 เมตรเศษ ยาวประมาณ 30 เมตร ได้ล้มลงมาลงมาจนพังทั้งแผงซึ่งคนงานอยู่ระหว่างช่วยกันเก็บเศษปูนดังกล่าวออกจากที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามนางกานต์มณี ตรีเมฆ อายุ 52 ปี คนงานที่เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนและผู้บาดเจ็บรวมทั้งหมด 5 คน กำลังช่วยกันตีแบบไม้อยู่ด้านหลังกำแพงปูนดังกล่าวซึ่งเพิ่งก่อด้วยอิฐบล็อกเสร็จ แต่จู่ๆ ได้มีลมพัดกรรโชกแรงจนทำให้กำแพงปูนที่เพิ่งก่อเสร็จล้มพับลงมาทั้งแผงทับร่างผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน ส่วนตนและเพื่อร่วมงานได้ยินเสียงกำแพงลั่นก่อนจึงได้รีบกระโดดออกมายืนด้านนอกได้ทัน และด้วยความตกใจที่เห็นเพื่อนร่วมงานถูกกำแพงปูนทับอยู่ด้านล่าง ตนจึงได้ตะโกนเรียนคนงานที่กำลังทำงานอยู่อีกฝากให้มาช่วยกันยกเศษแผ่นปูนออกช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมดออกมาได้ ก่อนโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า กำแพงปูนดังกล่าวคนงานเพิ่งก่อเสร็จเมื่อช่วงเย็น ซึ่งเนื้อปูนยังไม่ยึดติดกันระหว่างนั้นมีลมพัดกรรโชกมาอย่างแรงจึงทำให้กำแพงปูนดังกล่าวล้มพับลงมาทั้งแผนทับคนงานที่ทำงานอยู่ด้านหลังจนได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
