จากกรณีที่นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี ชาวจ.ศรีสะเกษ เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู ให้ช่วยติดตามหาน.ส.จุฑาภรณ์ หรือผอ.อ้อย อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับญาติพี่น้องได้พากันลุยตรวจค้นป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นานกว่า 7 วันล่าสุดได้รับแจ้งว่าพบศพหญิงคนหนึ่งผมยาว ห่อหุ้มด้วยพลาสติก ทิ้งอยู่ที่ชายแดนไทย-ลาว บริเวณผานางอิง พลาญตอกเลข ก่อนบุกป่าเข้าไปพบถุงมือยางสีฟ้า 3 คู่ รองเท้ายาง 1 ข้าง ถูกเผา แต่เมื่อจะถึงจุดที่พบศพตำรวจลาวไม่อนุญาตให้ทีมค้นหาเข้าไป เนื่องจากว่าไม่มีการประสานงานอย่างเป็นทางการ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น อ่านข่าว ทางการลาวห้ามข้ามชายแดน สามี ผอ.สาว ลุยเองบุกพิสูจน์ศพปริศนา เจอถุงมือ-รองเท้าถูกเผา

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี นายวิทยา เกษแก้ว สามีของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ เปิดเผยว่า จากการที่ตนพร้อมด้วยญาติพี่น้องและพรานป่า ได้รับทราบข่าวจากนายใส ไม่ทราบนามสกุล ผู้ใหญ่บ้านเข็ม เมืองกุสุมา แขวงจำปาสัก ประเทศลาวว่า พบศพหญิงสาวไม่ใช่ราษฏรลาวที่บริเวณช่องนางอิง ห่างจากชายแดนไทย-ลาว ประมาณ 2 กม.นั้น ตนและญาติพี่น้องกว่า 30 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพากันเดินลุยป่าเข้าไปที่พลาญตอกเลข ติดกับชายแดนลาวแล้ว

จากนั้นตนพร้อมด้วยญาติและพรานป่ารวม 8 คน พากันเดินลุยป่าไปที่บริเวณช่องนางอิง ที่อาจจะมีกับระเบิดหลงเหลืออยู่จำนวนมาก เพื่อตามหาศพหญิงสาวผมยาวที่อาจจะเป็นน.ส.จุฑาภรณ์ ภรรยาของตน ซึ่งบริเวณผานางอิงเป็นป่ารกทึบมาก โดยได้ร่วมกันค้นหาที่บริเวณจากยอดหน้าผาลึกลงมาที่บริเวณชั้น 3 ของหน้าผาตามที่ได้รับแจ้งว่า แต่ว่าไม่พบศพหรือว่ามีกลิ่นเหม็นของศพในบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด ใช้เวลาในการค้นหานานประมาณ 3 ชั่วโมง จึงกลับออกมาเนื่องจากว่าใกล้ค่ำแล้ว อีกทั้งเขตดังกล่าวอยู่ลึกเข้าไปในเขตประเทศลาว จึงได้พากันกลับเข้ามาในเขตแดนไทย ซึ่งญาติพี่น้องของตนจะพากันหาทางเข้าไปในเขตบริเวณดังกล่าวอีกครั้ง โดยผ่านทางจุดผ่านแดนที่ถูกต้อง เพื่อจะเข้าไปตรวจพิสูจน์ศพที่มีข่าวว่าพบอยู่บริเวณช่องนางอิงต่อไป

ด้าน นายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อาของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยน.ส.หมายปอง อุ่นอ่อน พี่สาวของน.ส.จุฑาภรณ์ และญาติพี่น้อง จะพากันไปยื่นหนังสือต่อ นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ช่วยเหลือคดีนี้ เนื่องจากเกรงว่าเรื่องจะเงียบหายไป เพราะผู้ต้องหาเป็นนายทหารยศร้อยเอกมีพวกพ้องนายทหารจำนวนมาก ซึ่งพวกตนจะพากันทวงถามตามหาความเป็นธรรมในเรื่องนี้จนถึงที่สุด

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน