เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 ส.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วยพ.อ.พินิจ ตั้งสกุล ผู้บัญชาการสำนักงานคดีทรัพย์สินทางปัญญา และนายพัฒนศักดิ์ ตั้งเตชานนท์ ตัวแทนจากบริษัทไนกี้ คอนเวิร์ส ร่วมกันแถลงข่าวการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.พลสัณห์ เทิดสงวน ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 1 นำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นแหล่งจำหน่าย และโกดังเก็บสินค้าประเภทรองเท้าละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยเชื่อว่าลักลอบนำเข้ามาในประเทศโดยหลีกเลี่ยงภาษี 6 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ ประกอบด้วย เขตสัมพันธวงศ์ 4 จุด เขตราษฎร์บูรณะ 1 จุด และอ.สามพราน จ.นครปฐม 1 จุด

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นแหล่งจำหน่ายและโกดังเก็บสินค้าพบรองเท้าละเมิดเครื่องหมายการค้าหลายยี่ห้อ โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร 160,000 คู่ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เช่น ไนกี้, คอนเวิร์ส, อดิดาส และยี่ห้ออื่น ๆ ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายฮงบินหลิน เจ้าของร้านวีวี่ชู และนายลิน ชาว เจ้าของร้านไอโซส สัญชาติจีน โดยดำเนินคดีฐานนำของซึ่งมีเครื่องหมายการค้า ของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้แล้วเข้ามาในราชอาณาจักรตามพรบ.เครื่องหมาย พ.ศ. 2534 และพรบ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 รวม 2 คดี ทั้งนี้ ดีเอสไอจะทำการติดตามขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายอื่นต่อไป

รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า อยากฝากถึงผู้ซื้อสินค้าว่าให้เลือกสินค้าที่ถูกลิขสิทธิ์ หรือหากอยากซื้อให้ราคาที่ถูกลงก็ให้อุดหนุนสินค้าของคนไทย เช่น เครื่องหนังก็จะมีความคงทนมากกว่าสินค้าที่ลอกเลียนแบบแน่นอน อีกทั้งอย่าไปหลงเชื่อกลุ่มที่บอกว่าจะเป็นตัวกลาง จัดการไม่ให้ถูกดีเอสไอดำเนินคดี เพราะดีเอสไอจะไม่มีการละเว้นการดำเนินคดีกลุ่มพวกนี้แน่นอน ทั้งนี้ หากใครพบเบาะแสหรือแหล่งที่จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1202 อีกทั้ง เรายังดำเนินการเชิงรุกเข้าพบปะหารือกับผู้ประกอบการค้าขายย่านเสือป่าและนวนคร เพื่อขอความร่วมมือไม่ให้เปิดร้านจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าด้วย

ด้าน นายพัฒนศักดิ์ กล่าวว่า กรณีที่มีประชาชนแสดงความคิดเห็นว่าอยากจะให้นำของละเมิดสิทลิขสิทธิ์เหล่านี้ไปบริจาคให้กับผู้ด้อยโอกาส ในส่วนนี้อยากจะขอชี้แจงว่า ต้องรอให้การสืบสวนดำเนินคดีสิ้นสุดลง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 3-4 ปี สินค้าเหล่านี้ก็จะหมดสภาพไม่สามารถนำไปใช้ต่อได้ หากยังนำไปบริจาคต่อจะเป็นการส่งเสริมให้คนใช้สิ่งของละเมิดลิขสิทธิ์มากขึ้นต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน