ศบค.ระบุไทยติดโควิด 4 ราย ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย จากผู้ต้องขังดีเจ อีก 3 รายมาจากสหรัฐฯ สิงคโปร์ ซาอุดิอาระเบีย ยอดสะสมรวม 3,431 ราย ทั่วโลกป่วยรวม 26.4 ล้านราย พร้อมเปิดไทม์ไลน์ดีเจ มีผู้สัมผัสรวม 589 คน เสี่ยงสูง 78 คน เสี่ยงต่ำ 511 คน กำลังสัมภาษณ์อีก 34 คน

วันที่ 4 ก.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ เพิ่ม 4 ราย ไม่มีหายป่วย และไม่มีเสียชีวิตเพิ่มเติม ผู้ป่วยยืนยันสะสมรวม 3,431 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,445 ราย สถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 493 ราย หายกลับบ้านรวม 3,277 ราย ยังรักษาใน รพ. 96 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่แบ่งเป็น

1. ผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 1 ราย เป็นผู้ต้องขังชายไทย อายุ 37 ปี เป็นดีเจในร้านอาหารหลายแห่ง วันที่ 26 ส.ค. เข้าสู่ระบบกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำ วันที่ 2 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ เริ่มป่วยวันที่ 29 ส.ค. มีเสมหะ เข้ารับการรักษาในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายนี้ คือ วันที่ 15 ส.ค. 17 ส.ค. 20 ส.ค. 22 ส.ค. และ 24 ส.ค. เป็นดีเจที่ร้าน 3 วัน 2 คืน พระราม 3 เวลา 24.00-02.00 น.

วันที่ 16 ส.ค. 21 ส.ค. และ 23 ส.ค. เป็นดีเจที่ร้าน 3 วัน 2 คืน พระราม 5 เวลา 22.00-01.00 น.

วันที่ 18 ส.ค. เป็นดีเจที่ร้านเฟิร์สคาเฟ่ ข้าวสาร เวลา 21.00-24.00 น.

วันที่ 26 ส.ค. เวลา 09.00 น. เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวไปศาลรัชดา พบบิดาผู้ป่วย (ทนาย) ตัดสินที่ห้อง 801 ร่วมกับผู้ต้องหา 2 คน เป็นชาย 1 หญิง 1

เวลา 10.30 น. ตัดสินคดี เจ้าหน้าที่ 2 คนใส่กุญแจมือพาผู้ป่วยและผู้ต้องหาอีก 2 คนลงลิฟต์ไปห้องฝากขังใต้ศาลรัชดา อยู่ร่วมผู้ต้องขัง 16 ราย

เวลา 18.00 น. มีรถมารับผู้ป่วยและผู้ต้องขังรวม 16 คน ไปที่ทัณฑสถาน โดย 8 คนรวมผู้ป่วยไปที่แดนบำบัด อีก 8 คน ไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ

เวลา 19.00 น. ถึงเรือนจำ มีการตรวจอาวุธ ตรวจวัดไข้ คัดกรองโควิด ตัดผมก่อนเข้าควอรันทีน 14 วัน

วันที่ 29 ส.ค. เริ่มมีเสมหะ วันที่ 2 ก.ย. ผลตรวจเป็นบวก วันที่ 3 ก.ย. ดำเนินการสอบสวนโรค

สรุปมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ คือ คอนโด สัมผัสเสี่ยงสูง 6 ราย ผลตรวจ 5 รายไม่พบเชื้อ ส่วนอีกรายเป็นแม่ภรรยาอยู่ระหว่างรอการตรวจ โดยมีการแยกกักและติดตาม 14 วัน

ร้านอาหาร 3 วัน 2 คืน สัมผัสเสี่ยงสูง 1 คน เป็นเพื่อนดีเจ โดยจะแยกกักและติดตาม 14 วัน และค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม

ศาลอาญา ผู้สัมผัส 492 คน สัมผัสเสี่ยงสูง 14 คน เสี่ยงต่ำ 478 คน ผลตรวจสัมผัสเสี่ยงสูง 10 คนและเสี่ยงต่ำ 148 คนไม่พบเชื้อ โดยกลุ่มเสี่ยงสูงให้กักตนเองที่บ้าน 14 วัน กลุ่มเสี่ยงต่ำจะประสานศูนย์บริการติดตามเฝ้าระวังอาการ 14 วัน

โรงพยาบาลทัณฑสถาน มีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 6 คน ให้ติดตามเฝ้าระวังอาการ 14 วัน

ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เจ้าหน้าที่ / อสจร. สัมผัส 40 คน เป็นเสี่ยงสูง13 คน เสี่ยงต่ำ 27 คน นัดเก็บตัวอย่างวันที่ 8 และ 16 ก.ย. โดยกลุ่มเสี่ยงสูงควรแยกกักเพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อ ผู้ต้องขังนอนห้องเดียวกัน เป็นสัมผัสเสี่ยงสูง 36 คน ผลตรวจเป็นลบทุกราย เตรียมเก็บตัวอย่างตรวจวันที่ 8 และ 16 ก.ย. โดยควรแยกจากผู้ต้องขังรายอื่นเรือนจำพิเศษกรุงเทพ

ผู้ต้องขังรถคันเดียวกัน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 8 คน อยู่ระหว่างรอผลตรวจ และควรแยกกักจากผู้ต้องขังรายอื่น

สรุปมีผู้สัมผัสรวม 589 คน อยู่ระหว่างสัมภาษณ์เพิ่ม 34 คน สัมผัสเสี่ยงสูง 78 คน และสัมผัสเสี่ยงต่ำ 511 คน

2. ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศแล้วเข้าพักในสเตท ควอรันทีน 3 ราย ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 31 ปี ว่างงาน เดินทางถึงไทยวันที่ 25 ส.ค. เข้ารับการกักตัวในอัลเทอร์เนทีฟ สเตท ควอรันทีน ใน กทม. ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 วันที่ 1 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ

สิงคโปร์ 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 54 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยวันที่ 30 ส.ค. เข้ารับการกักตัวในสเตท ควอรันทีน ใน กทม. ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 วันที่ 2 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ

ซาอุดิอาระเบีย 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 53 ปี อาชีพล่ามสำนักแรงงาน เดินทางถึงไทยวันที่ 2 ก.ย. ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 วันที่ 3 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ พบมีประวัติป่วยด้วยโควิด 19 เมื่อ ก.ค. – ส.ค. เข้ารับการรักษาซาอุดิอาระเบีย ผลตรวจก่อนกลับวันที่ 29 ส.ค. ไม่พบเชื้อ

สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อรวม 26,465,221 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 287,635 ราย อาการรุนแรง 60,749 ราย รักษาหายแล้ว 18,660,112 ราย เสียชีวิต 873,108 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 6,335,244 ราย เป็นรายใหม่ 44,507 ราย 2. บราซิล จำนวน 4,046,150 ราย เป็นรายใหม่ 44,728 ราย 3. อินเดีย จำนวน 3,933,124 ราย เป็นรายใหม่ 84,156 ราย 4. รัสเซีย จำนวน 1,009,995 ราย เป็นรายใหม่ 4,995 ราย 5. เปรู จำนวน 670,145 ราย เป็นรายใหม่ 6,708 ราย ขณะที่พม่ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น 116 ราย รวม 1,111 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน