หลังจากนายชีพ จุลมนต์ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนรายงานกระบวนการพิจารณาคดีจำนำข้าว โดยจำเลยไม่มา ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษา เนื่องจากจำเลยมีอาการป่วยน้ำในหูไม่เท่ากัน วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาได้ ขณะที่ฝ่ายอัยการโจทก์ยื่นคัดค้านเห็นว่าอาการป่วยของจำเลย น่าที่จะสามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาได้ อีกทั้งไม่มีใบรับรองแพทย์มายืนยัน องค์คณะพิจารณาแล้วไม่น่าเชื่อว่าอาการป่วยของจำเลยจะทำให้ไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาได้ อีกทั้งไม่มีใบรับรองเเพทย์ อันเชื่อได้ว่าจำเลยมีพฤติการณ์หลบหนี จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และปรับนายประกันเต็มจำนวน พร้อมมีคำสั่งนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งวันที่ 27 ก.ย.2560 เวลา 09.00
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไปทำบุญกราบไหว้สมเด็จโตที่วัดระฆังโฆสิตาราม กทม. เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นมีข้อมูลว่าวันที่ 24 ส.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว ขณะเดียวกันมีข้อมูลอีกว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นพี่ชาย ได้เดินทางมาที่ประเทศสิงคโปร์เช่นเดียวกัน
ยิ่งลักษณ์กราบหลวงพ่อโตที่วัดระฆังเมื่อวันที่ 23 ส.ค.
ล่าสุดพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เดินทางมาศาลเพื่อรับฟังคำตัดสินคดีจำนำข้าวว่า ทราบว่าศาลได้ออกหมายจับน.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว และต้องติดตามตัว
ส่วนเรื่องนี้เป็นข้อบกพร่องทางการข่าวของฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขามีหลายบ้าน ไม่รู้อยู่บ้านหลังไหน รถก็มีหลายคัน มันไม่ใช่ความบกพร่อง เราพยายามติดตามว่าเขาเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่เห็นว่าป่วยน้ำในหูไม่เท่ากัน ก็ต้องดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้าไม่มาศาลต้องออกหมายจับ แล้วแต่การดำเนินการของศาล
เมื่อถามว่ามีกระแสน.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีไปตั้งแต่คืนวันที่ 24 ส.ค. มีการข่าวเรื่องนี้บ้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจน เขาเป็นอดีตนายกฯ อาจจะมีคนเข้าไปช่วยเหลือ แต่ยังไม่แน่ใจ
