เมื่อวันที่ 15 ก.ย. จากกรณีมีเว็บไซต์ TS1NEWS.COM ซึ่งเป็นเว็บไซด์ปลอมแอบอ้างเป็นเว็บไซต์ Khaosod – ข่าวสด เผยแพร่ข่าวอันเป็นเท็จที่ได้เผยแพร่รูปภาพของเด็กชายคนหนึ่งใน ยืนพิงกำแพงร้องไห้ด้วยความเสียใจที่พ่อเสียชีวิต ศพตั้งอยู่ที่ วัดในพื้นที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
ซึ่งระบุข้อความว่า “พระไม่สวด ป้ายศพไม่มี” ไม่มีแม้เงินทำศพให้พ่อ ไม่มีเงินใส่ซองพระ พระไม่มาสวด เหลือตัวคนเดียว ต่อมายังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง ได้ประกาศขอรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือเด็กคนดังกล่าว และอ้างว่าจะนำเงินไปบริจาคให้ถึงงานศพในวันที่ 15 ก.ค. โดยให้โอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขานครปฐม โดยพบว่ามีผู้บริจาคเงินจำนวนมาก
โดยเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ วัดศาลาตึก ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งถูกกล่าวหาพาดพิงในลักษณะเสียหาย ซึ่งพระชาติ พระลูกวัดศาลาตึก เปิดเผยว่า ทางวัดเห็นข้อความทั้งหมดที่ปรากฏเป็นข่าวแล้ว โดยปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เรื่องดังกล่าวนั้นเริ่มมาจาก นายวิเชียร กลีบเมฆ อายุ 46 ปี ชาวบ้นป่วยเป็นโรงมะเร็งได้เสียชีวิตลง ทางญาติได้เข้ามาติดต่อขอทำพิธีสวดพระอภิธรรมที่วัดศาลาตึก แต่ได้แจ้งมาว่ามีฐานะยากจนไม่มีเงินที่จะทำศพ ทางวัดจึงเข้าช่วยเหลือทั้งนำศพใส่โรงและทำพิธีตามปกติเพราะเป็นหน้าที่ของพระสงฆ์อยู่แล้ว
“อาตมาเป็นผู้นำสวดเอง จนกระทั่งสวดจบที่ 2 เกิดฝนตกหนักไฟฟ้าดับ อาตมาจึงช่วยกันจุดเทียนแล้วสวดจนเสร็จสิ้น แต่ข่าวที่ออกไป กลายเป็นว่า ไม่มีเงินใส่ซอง พระก็ไม่สวด เรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ขอบอกว่าไม่เป็นความจริง ทางวัดได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก”
ขณะที่ นายวีรยุทธ ศิริทองเกษตร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน กล่าวว่า ผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการวัด จะทำการปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ที่ปล่อยข่าวทำให้วัดเสียหาย เพียงแค่แจ้งมาว่ายากไร้ ไม่มีเงิน วัดก็ยินดีที่จะดำเนินการให้ทุกอย่าง สำหรับงานศพจะสวดถึงวันที่ 16 ก.ย.60 และทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 17 ก.ย.60 เวลา 13.00 น. ที่ เมรุ วัดศาลาตึก
ด้านนางอารมย์ มีเทศ อายุ 46 ปี น้องสะใภ้ของผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายมีภรรยาและลูก 1 คน ภายหลังได้แยกทางกับภรรยา โดยบุตรชายอายุ 12 ปี ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนในพื้นที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ก่อนที่จะนำศพมาที่วัดเราได้แจ้งกับทางวัดว่า เราไม่มีเงินฐานะยากจน ทางวัดก็ไม่ขัดข้องโดยบอกว่าเดี๋ยวทางวัดจะจัดการเองและดำเนินการให้ทั้งหมด แต่ปรากฏว่าข่าวที่ออกไปเป็นคนละเรื่องกัน ไม่เป็นความจริงเลย ไม่รู้ว่าใครเอาไปลงโซเชียล
ขณะนี้นายอำเภอกำแพงแสน ได้สั่งการให้นายเกียรติศักดิ์ ธนาวรรณโอภาส ปลัดอำเภอลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อตรวจสอบแล้วทราบว่าผู้เสียชีวิตนั้นเสียเมื่อวันที่ 14 ก.ย.60 ที่ผ่านมา ทางวัดก็สวดพระอภิธรรมตามปกติ แต่พบว่าข้อมูลที่ลงโลกออนไลน์นั้นมีความบิดเบือนจากข้อเท็จจริงอย่างมาก สร้างความเสียหายให้วัดอย่างมาก พร้อมกันนี้จะมีการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
สำหรับเว็บไซต์ “ข่าวสด” ของปลอ มจะแปะลิงก์ข่าวที่ไม่ได้นำมาจากเว็บไซต์ www.khaosod.co.th และลิงค์ข่าวของจริงจะต้องเขียนว่า “KHAOSOD.CO.TH” เท่านั้น
