จากกกรณีกลุ่มหญิงสาวผู้เสียหาย ปรากฏในคลิปภาพเหตุการณ์ ที่เผยแพร่ทางโซเชี่ยลมีเดีย เกี่ยวกับการลงโทษกลุ่มโคโยตี้ด้วยวิธีเวียนกันตบหน้า จนเป็นวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าของ “นิ นิวส์โมเดลลิ่ง” ย่านบางขุนนนท์ ฝั่งธนบุรี กทม. ซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้านพักของเด็กโคโยตี้ ที่ปรากฏในคลิปเป็นผู้ตบหน้า ผู้เสียหาย เนื่องจากมีพฤติกรรมค้ามนุษย์ จัดส่งเด็กที่อายุไม่ถึง 18 ปี เต้นโชว์ ตามสถานบันเทิง

 

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ก.ย. 4 สาวโคโยตี้ ประกอบด้วย น.ส.บอล (นามสมมติ) ทำหน้าที่คนดูแล น.ส.อ้อย (นามสมมติ) น.ส.มายด์ (นามสมมติ) และน.ส.เนม (นามสมมติ) ทั้งหมดอายุ 17 ปี พร้อมด้วยญาติพี่น้อง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ พงส. กก.1 บก.ปคม. โดยมี พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รองผบก.ปคม. พนักงานงานอัยการ และนักสังคมสงเคราะห์ร่วมสอบปากคำ เพื่อเอาผิดกับ นายเอ (นามสมมติ) เจ้าของนินิวส์โมเดลลิ่ง ที่ผันตัวจากนักแสดงตลก-มายากล มาส่งโคโยตี้แสดงตามผับต่างๆ

 

พล.ต.ต.กรไชย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้เสียหายเบื้องต้น กลุ่มผู้กระทำผิด อาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ประเภทที่ 3 แสวงหาผลประโยชน์จากการกระทำทางเพศ ส่วนผู้ที่อยู่เบื้องหลังและพาดพิงถึงใครจะดำเนินการออกหมายเรียกมาสอบสวนข้อเท็จจริง นอกจากนี้ยังมีความผิดที่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี สวมบัตรประชาชนของบุคคลอื่น เพื่อเข้าไปทำงานตามสถานบันเทิง โดยจะต้องสอบสวนว่าสถานบันเทิงรู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ยืนยันจะเดินหน้าสืบสวนหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ถึงแม้ผู้เสียหายอายุต่ำกว่า 18 ปี จะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

 

ด้าน พ.ต.อ.มานะ กล่าวว่า ทั้งนี้ในการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด จะมีพนักงานอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ร่วมสอบปากคำด้วย เนื่องจากเป็นคดีที่มีการกระทำความผิดต่อเพศ ไม่ว่าจะเป็นการค้าประเวณี หรือค้ามนุษย์ หลังจากสอบปากคำเด็กทั้งหมดจะดำเนินการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะ นายเอ (นามสมมติ) ตามที่ผู้เสียหายระบุเป็นเจ้าของโมเดลลิ่งตัวจริง ส่วน น.ส.พรรณวรท ควบคุม หรือ นินิวส์ อายุ 34 ปี คนดูแลโคโยตี้ที่ได้ออกสื่อและอ้างว่าไม่ได้ให้เด็กค้าประเวณี แค่พาไปเต้นโคโยตี้ตามผับเท่านั้น ซึ่งจะเรียกมาสอบปากคำตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป

 

ด้าน นายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) พี่ชายของ น.ส.บอล หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า น้องสาวทำหน้าที่คอยดูแลโคโยตี้ โดนลงโทษด้วยการตบหน้า จึงได้โทรฯไปสอบถามกับผู้ที่กระทำแต่ได้รับคำตอบว่าน้องสาวเสพยาเสพติด มีเรื่องทะเลาะวิวาท และลักทรัพย์ในบ้านของผู้กระทำความผิด ขัดแย้งกับที่น้องสาวอ้างว่าโดนลงโทษเพราะขาดงาน นอกจากนี้น้องสาวกับกลุ่มผู้เสียหายยังทราบพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าวที่เปิดเป็น โมเดลลิ่ง แต่แท้จริงแล้วมีการค้าประเวณี นอกจากนี้เด็กที่เข้ามาในสังกัดต้องเปิดเรือนร่างให้นายเอ ไม่เว้นทั้งผู้หญิงและทอม

 

รายงานเปิดเผยว่า น.ส.บอล และ น.ส.อ้อย 2 ผู้เสียหายที่มาแจ้งความวันนี้ได้ถูกนายเอหลอกลวงมีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยทุกคนที่สมัครมาทำงานเป็นโคโยตี้จะต้องผ่านการตรวจร่างกายจากนายเอ โดยการแก้ผ้าให้ดูก่อนอ้างว่าจะได้ไม่มีหน้าท้องลาย ขาลาย หรือเป็นสาวประเภทสองแปลงเพศมาสมัครเต้นในคณะ ก่อนที่นายเอจะฉวยโอกาสลวนลามหรือบังคับมีเพศสัมพันธ์ด้วย

 

 

น.ส.อ้อย เผยว่า นายเอสัญญาว่าจะซื้อมือถือซัมซุงให้ ก่อนยินยอมมีเพศสัมพันธ์กับนายเอเมื่อปีที่แล้วซึ่งตอนนั้นตนมีอายุเพียง 17 ปี ส่วน น.ส.เนม และ น.ส.มายด์ สมัครมาเป็นโคโยตี้ตอนอายุ 16 ปี นายเอจะบังคับให้มีความสัมพันธ์ด้วยแต่ทั้งคู่ไม่ยินยอม ยอมแค่เปลื้องผ้าให้สำรวจเรือนร่าง ทำให้นายเอไม่ค่อยพอใจ ถึงกับหักเงินค่าตัวจากการเต้นแต่ละคืนจำนวน 700 บาท เหลือเงินรับจริงแค่คืนละ 200-300 บาท ทั้งสองคนจึงมาเป็นพยานให้ในการเอาผิดนายเอในวันนี้

 

ส่วนโคโยตี้อีกหลายคนที่โดนบังคับมีเพศสัมพันธ์กับนายเอแต่เกรงกลัวจึงไม่กล้ามาในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ระหว่างรอให้ปากคำพนักงานสอบสวนและสหวิชาชีพ มีลูกน้องที่เสียประโยชน์พากันโทรศัพท์มาต่อว่าผู้เสียหายและญาติ บอกให้เอาผิดแค่นินิวส์พอ อย่าพาดพิงถึงนายเอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน