“อนุทิน” ลุยยกระดับ 4 บริการ “บัตรทอง” เข้าถึงระบบสาธารณสุขสะดวกขึ้น ลั่น 30 บาทรักษาทุกที่ เป็นภาค 2 ของการรักษาทุกโรค รักษาได้ทุกที่ เริ่ม กทม. ส่วนป่วยมะเร็ง รักษารพ.ที่มีศักยภาพได้ทุกที่ และเปลี่ยนหน่วยบริการไม่ต้องรอเวลา เริ่ม 1 ม.ค.เป็นของขวัญปีใหม่

วันนี้ (5 พ.ย.) ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปาฐกถา “ยกระดับบัตรทอง 4 บริการ สู่หลักประกันสุขภาพยุคใหม่” ว่า ขณะนี้ผู้บริหารประเทศมาจากการเลือกของประชาชน คนที่เข้ามาบริหารประเทศจึงต้องคำนึงถึงการดูแลให้บริการที่ดีที่สุดแก่ประชาชน นี่คือความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนเป็นผู้เลือกคนเข้ามาทำงานให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง

หากทำไม่สำเร็จก็เลือกคนอื่นมาทำหน้าที่แทนในยามหมดวาระ ซึ่งรัฐบาล โดย สธ.และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พยายามผลักดันระบบสุขภาพและบริการให้ดีที่สุด ทุกวันนี้คนไทยทุกคนเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานบริการของรัฐทุกแห่งด้วยสิทธิที่ตัวเองมี

นายอนุทินกล่าวว่า การยกระดับบัตรทองเป็นความเข้าใจง่ายๆ ว่า เมื่อ 30 บาทรักษาทุกโรคแล้ว ทำไมไม่รักษาทุกที่ไปด้วย ทำไมคนไทยอยู่เชียงใหม่ที่ไปทำงานอยู่พังงาแล้วเกิดเจ็บป่วยโรคปกติ ต้องส่งตัวขั้นตอนมากมาย ทำไมไม่ใช้ดาต้าใหญ่ แล้วป่วยที่ไหนก็เข้าที่นั่น ซึ่งไม่ต้องไปกังวลว่า คนจะไปเลือกเข้าโรงพยาบาลใหญ่ ดังนั้น แต่ต้องไปยกระดับโรงพยาบาล ไม่มีคำว่าโรงพยาบาลใหญ่โรงพยาบาลเล็กแต่ต้องมีเฉพาะโรงพยาบาลดี โรงพยาบาลที่รักษาคนไข้ได้มากที่สุด

แต่ถ้าเกิดเคสยุ่งยากมากก็ต้องใช้ระบบส่งต่อ สำหรับการพัฒนาบัตรทองมี 4 ระบบบริการเพิ่มเติมคือ 1.การรักษาปฐมภูมิที่ใดก็ได้ในเครือข่ายบัตรทอง 2.ผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว 3.ผู้ป่วยมะเร็งรักษาโดยตรงที่ รพ.เฉพาะทางและไม่แออัด และ 4.ประชาชนได้รับสิทธิบริการทันที หลังเปลี่ยนหน่วยบริการประจำ

“การพัฒนา 30 บาทรักษาทุกที่ เป็นภาค 2 ของ 30 บาทรักษาทุกโรค โดยผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่ใช่อาการหนักสามารถเข้าหน่วยบริการปฐมภูมิได้ทุกที่ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ กทม. และตั้งเป้าในปี 2565 จะครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ สำหรับผู้ป่วยในใช้บริการหน่วยบริการใดก็ได้โดยไม่ต้องมีใบส่งตัวหรือต้องรอเอกสารส่งตัวผู้ป่วยที่ใช้เวลานานมาก เริ่มในเขตสุขภาพที่ 9 วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา

ตั้งเป้าภายในปี 2565 ทั้ง 12 เขตสุขภาพจะใช้ระบบนี้เช่นกัน ส่วนโรคมะเร็งสามารถตรวจและรักษาได้ทุก รพ.ที่มีความพร้อม ไม่ต้องรอคิวเหมือนที่ผ่านมา ไม่ต้องถูกจำกัดการใช้สิทธิเฉพาะ รพ.ที่ลงทะเบียนไว้ เริ่มวันที่ 1 ม.ค. 2564 ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ป่วยมะเร็ง และประชาชนทุกคนสามารถใช้บริการได้ทันทีเมื่อแจ้งเปลี่ยนหน่วยบริการประจำไม่ต้องรอเวลา แจ้งปุ๊บสามารถใช้ได้ทันที ตอนนี้สปสช.กำลังเร่งยกระดับเรื่องฐานข้อมูลพร้อมจะให้บริการได้ในวันที่ 1 ม.ค. 2564 เช่นกัน” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวว่า การพัฒนาการยกระดับทั้ง 4 บริการนี้จะเป็นการบริการยกระดับงานบริการของประเทศไทยให้เป็นบริการสาธารณสุขที่ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อการอำนวยความสะดวก ดูแลรักษาประชาชนให้เข้าถึงบริการได้อย่างสะดวกขึ้น ง่ายขึ้น และหวังว่าคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนจะดีขึ้นมาโดยลำดับ เรื่องอื่นเราอาจสู้เขาไม่ได้ แต่เรื่องของด้านการสุขภาพและสาธารณสุขเราต้องไม่เป็นรองใคร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน