วันที่ 22 ต.ค. ร.ต.อ.ชาติสยาม แจ่มรัตรโสภิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนประสานงาแล้วเสียหลักพุ่งชนคนเสียชีวิต ที่สี่แยกโรงกระถิน ม.2 ต.คุ้งตะเภา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ภัยและแพทย์เวรโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุ เป็นห้องแถวปูนชั้นเดียว จำนวน 2 ห้อง หมู่ 2 ต.คุ้งตะเภา อ.เมือง ซึ่งเปิดเป็นร้านข้าว และร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ พบศพ น.ส.เสาวณี ยอดยิ่ง อายุ 32 ปี ต.คุ้งตะเภา อ.เมือง สภาพศพนอนหงาย ถูกอัดติดอยู่กับเสาบ้าน ผู้ตายสวมเสื้อยึดคอกลมแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงยีนส์ขายาว แขนขาวผิดรูป ศีรษะถูกกระแทก มีบาดแผลยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร ขาขาวบริเวณใต้หัวเข่ามีแผลฉีกขาด

ข้างศพพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ญง 2585 กรุงเทพมหานคร เสียหลักชนประตูเหล็กด้านหน้าพัง ด้านข้างคนขับมีรอยเฉี่ยวชน จอดคาบ้านหลังที่เกิดเหตุ ถัดไปมีรถอีก 1 คัน เป็นรถเก๋งยี่ห้อ เซฟโลเลต สีบรอนด์เงิน ทะเบียน กค 6546 อุตรดิตถ์ สภาพรถด้านข้างพังยับเยินเช่นกัน โดยมีญาติๆ และเพื่อนบ้านมาให้กำลังใจสามี และลูกชายวัย 13 ปี และ 14 ปีของผู้เสียชีวิตที่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด

ร.ต.อ.ชาติสยาม กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ขับขี่ทั้งสองคน โดยเจ้าของรถยนต์โตโยต้า ซึ่งมี นายยศพัทธ์ ศิริสราญลักษณ์ อายุ 61 ปี ครูบำนาญ ขับรถมาจากบ้านถนนทางหลวงที่ 11 หรือสายเอเชีย พิษณุโลก – เด่นชัย มาทางถนนจุฬามณี พอมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นสี่แยก ได้ชนประสานงากับ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเซฟโลเลต ซึ่งมี นางรัฐฏา กุลศิริ อายุ 63 ปี ครูบำนาญ เป็นผู้ขับมาจากอำเภอลับแล มาทางถนนพิฆเนศวร จนเสียหลักไปชนร้านข้าวพันผัก และชน น.ส.เสาวณี ที่กำลังเตรียมของไว้ขายให้ลูกค้าจนเสียชีวิตดังกล่าว

“เบื้องต้นสันนิษฐานว่ารถยนต์สองคัน วิ่งมาถึงสี่แยกบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง คาดว่าน่าจะไม่ได้มองกัน จนเป็นเหตุให้รถทั้งสองคันเฉี่ยวชน เกิดเสียหลักพุ่งชนผู้เสียชีวิตในบ้านหลังดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการตรวจสอบพยาน หลักฐาน กล้องวงจรปิด เพื่อสรุปสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยยังไม่ได้ตั้งข้อหาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง” ร.ต.อ.ชาติสยาม กล่าว

นางรัฐฏา กุลศิริ กล่าวว่า ขณะตนขับรถมาจากบ้านป่ากล้วย เพื่อจะไปร่วมงานบวชเพื่อน ที่วัดคุ้งตะเภา ต.คุ้งตะเภา พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกรถเก๋งของตนได้เฉี่ยวชนกับรถเก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า จนรถคันดังกล่าว เสียหลักพุ่งชนรถร้านข้าวพันผัก ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ขับรถเร็ว เพราะอายุมากแล้ว

นายยศพัทธ์ ศิริสราญลักษณ์ กล่าวว่า ตนขับรถเส้นทางนี้เป็นประจำ เพื่อไปกินข้าวที่ร้านอาหารในตำบลท่าเสากับภรรยา โดยตนขับมาในเส้นทางหลัก และขับไม่เร็ว เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ก็ถูกรถคู่กรณีชนประสานงา จนรถของตนพุ่งไปชนคนเสียชีวิตในบ้าน ซึ่งเบื้องต้นได้พูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตว่ารถตนมีประกันชั้น 1 และจะดูแลรับผิดชอบอย่างเต็มที่

นายสมหมาย เขียวขำใส อายุ 38 ปี สามีผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุภรรยา เตรียมของไว้ขายเพียงคนเดียว จึงไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ เมื่อคืนนี้ภรรยาตนได้ละเมอร้องไห้ ถามว่าเป็นอะไรก็บอกว่าฝันร้าย ฝันว่ามีคนมีทุบหัวสามีตาย แต่ตอนเช้ามากลับเกิดเหตุเศร้าสลดกับภรรยาตนดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน