รวบเซียนพระกำมะลอ อ้างชื่อ ‘บัวขาว’ ตุ๋นปล่อยพระเก๊ เหยื่อหลงเชื่อสูญเป็นล้าน

รวบเซียนพระกำมะลอ อ้างชื่อ ‘บัวขาว’ ยอดมวยดัง ตุ๋นปล่อยพระเก๊ เหยื่อหลงเชื่อสูญเป็นล้าน เผยประวัติโชกโชน นายทหาร ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นักธุรกิจ โดนหลอกมาแล้ว

เมื่อวันที่ 14 เม.ย.64 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ต.กิตติภพ ทองเพชร สว.กก.3 บก.ป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.4 บก.ทล. เข้าจับกุม นายไกรยุทธ อายุ 51 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 436/2563 ลง 19 มี.ค.63 ข้อหา “ยักยอกทรัพย์” และหมายจับคดีลักษณะเดียวกันของศาลแขวงจังหวัดต่างๆ อีก 5 หมายจับ ได้บริเวณริมถนนอุดรธานี-เลย ต.ศรีสงคราม อ.วังสะพุง จ.เลย

จากการจับกุมทราบว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 นายไกรยุทธเข้าไปตีสนิทกับผู้เสียหายพูดจาหว่านล้อม อ้างตัวเป็นเซียนพระฉายา “ย้ง เมืองกาญจน์” รู้จักสนิทสนมผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนในวงการทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ ไปยันวงการมวย และยังอ้างตัวเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับนักมวยชื่อดัง “บัวขาว บัญชาเมฆ” อีกด้วย

พร้อมนำภาพถ่ายระหว่างผู้ต้องหากับยอดมวยดังมาแสดงให้ดู เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จนผู้เสียหายหลงเชื่อ ตกลงรับเช่าพระเครื่องราคาหลักล้าน ที่นายไกรยุทธนำมาอ้างว่านำไปปล่อยให้เช่าต่อได้ในราคาสูงสุดท้ายก็เป็นพระปลอม แต่ผู้ต้องหาก็เชิดเงินของผู้เสียหายหลบหนีไปแล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนจนทราบว่า นายไกรยุทธมีประวัติก่อเหตุมาอย่างโชกโชน เหยื่อมีทั้งนายทหาร ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นักธุรกิจ นักมวย พ่อค้า ประชาชน เคยตกเป็นเหยื่อนับไม่ถ้วน และเคยถูกจับกุมมาแล้วหลายคดี จนพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2559 แต่ก็ยังออกมาก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง แบบไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมาย

จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหานั้นไม่มีอาชีพ ไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักเป็นแหล่ง และยังติดการพนันอย่างหนัก จนทราบว่าผู้ต้องหาขับรถผ่านด่านความมั่นคงบนถนนอุดรธานี-เลย จึงสะกัดจับกุมตัวได้ดังกล่าว สอบสวนนายไกรยุทธ ไม่ขอให้การในชั้นจับกุม จึงนำตัวส่งสภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีต่อไป