จากกรณีที่นางสาว ป. (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี สาวพิการไร้แขนสองข้าง เข้าแจ้งความตำรวจสภ.เมืองตาก ว่าโดนนาย “ส” (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี พี่เขยข่มขืนกระทำชำเรามาตั้งแต่ปี 2552 ถึงปี 2560 โดยแจ้งความตำรวจไว้เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดคดียังไม่มีความคืบหน้า
นางสาว ป. เล่าว่า พี่เขยกับตนบ้านอยู่ติดกัน โดยก่อนหน้าตนอยู่กับแม่ 2 คน มีพี่เขยมาหาและข่มขืนมาตั้งแต่ปี 2552 ถึงปี 2560 เป็นระยะเวลาประมาณ 8 ปี จนกระทั่งถึงวันนี้ตนทนไม่ไหว จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยล่าสุดพ.ต.ท.ภานุวัฒน์ เกิดแสง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตาก แจ้งว่าพี่เขยจะเข้ามาให้การช่วงเช้าวันที่ 23 พ.ย.นี้ ที่สภ.เมืองตาก
ก่อนหน้านั้น พี่เขยข่มขู่หนูมาตลอด ถ้าไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ก็จะทำร้ายร่างกาย และไม่ให้เงินลงทุนขายล็อตเตอรี่ ซึ่งหนูและแม่เป็นผู้พิการ ได้โควต้าสลากจำนวน 10 เล่ม ยอดเงินที่จะต้องจ่ายแต่ละงวดมากถึง 70,400 บาท ต้องอาศัยเงินพี่เขยและพี่สาวมาหมุนทุกงวด จึงต้องยอมตลอดมา บางครั้งหนูไม่ยอมร่วมหลับนอน พี่เขยก็จะไม่พอใจ กลั่นแกล้ง ไม่ส่งข้าวส่งน้ำให้กินตอนไปนั่งขายล็อตเตอรี่ บางวันตนต้องยอมอดข้าวอดน้ำก็มี
เหยื่อสาวพิการเล่าว่า หลังจากที่ตนมีแฟน และมาอยู่กินด้วยกันกับแฟน ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่พี่เขยก็ยังฉวยโอกาสที่ไม่มีอยู่บ้าน แอบข่มขืนต่อเนื่องตลอดมา จนกระทั่งช่วงประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องรู้ถึงสามีตน ก็เลยนำเรื่องทั้งหมดไปแจ้งความตำรวจ และแจ้งไปที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ดำเนินคดีพี่เขยดังกล่าว
“หลังตำรวจออกหมายเรียกเมื่อวันที่ 17 พ.ย. พี่เขยและพี่สาวได้โทรศัพท์ติดต่อมาขอให้ถอนแจ้งความ แต่หนูยืนยันว่าจะดำเนินคดี หนูไม่ยอมความแน่นอน เนื่องจากถูกข่มขู่มาโดยตลอด ต้องหลบๆซ่อนๆ บางวันนอนร้องไห้ทั้งคืน บางครั้งถึงกับคิดฆ่าตัวตายก็มี”
เหยื่อสาวกล่าวว่า แต่เมื่อมีสามีแล้ว และสามีพามาแจ้งความ เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตาก (พมจ.) ก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย ให้ที่พักอาศัย ได้ไปนอนอยู่ที่ชมรมคนพิการ และบ้านเจ้าหน้าที่ พมจ.ด้วย จะอยู่ที่นี่ต่อไป เพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายบ้านเมืองต่อไป
