เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 พ.ย. ที่ศูนย์ปฎิบัติการส่วนหน้า (ศปก.) สภ.เมืองขอนแก่น พล.ต.ต.พรหมณัฎฐเขต ฮามคำไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายฉัตรชัย อุ่นเจริญ นายอำเภอเมืองขอนแก่น พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าฝ่ายข่าวกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายเก่ง นามสมมุติ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้เปิดเผยชื่อ หลังถูกเจ้าหน้าที่กองปราบปรามและ ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ติดตามจับกุมตัวได้ ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี

พล.ต.ต.พรหมณัฎฐเขต กล่าวว่า ผู้ต้องหาเคยทำงานเป็นผู้จัดการโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ในจ.ขอนแก่น และทำอาชีพเป็นนายหน้าที่ดินเสริมด้วย ซึ่งก่อนถูกจับกุม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งจากฝ่ายกฎหมายของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สาขาขอนแก่น ว่าถูกกลุ่มคนร้ายทำการปลอมแปลงเอกสาร ประกอบด้วยหนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชา ใบจ่ายเงินเดือน ใบอนุญาตก่อสร้าง มาทำการขอสินเชื่อบ้านและที่ดิน ในพื้นที่ขอนแก่น รวม 14 รายการมูลค่า 38 ล้านบาท

โดยทั้งหมดมีการขอยื่นกู้ในชื่อของข้าราชการทหาร สังกัดค่ายดังในเขตกทม. และพนักงานรบริษัท เอกชน รวม 14 สัญญา ซึ่งธนาคารได้ทำการตรวจสอบเอกสารและมีการอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว ต่อมาครบกำหนด 3 เดือน ไม่มีการชำระค่างวด จึงได้ทวงถามไปยังลูกหนี้ทั้ง 14 ราย ทราบว่าถูกนายเก่ง ชักชวนไปเช่าซื้อที่ดินและบ้านในขอนแก่น โดยเตรียมเอกสารหลักฐานให้ทั้งหมด จากนั้นยื่นเรื่องทำสัญญากู้เงิน

“เมื่อธนาคารอนุมัติสินเชื่อทั้ง 14 รายการ เงินทั้งหมดได้ถูกจ่ายให้กับเจ้าของบ้านและที่ดินที่ทำการซื้อจริง แต่มีส่วนต่างที่เหลือ นายเก่งได้ให้ค่าจ้างคนละ 100,000 บาท ส่วนเงินที่เหลืออีกนั้นมีการเก็บไว้ทั้งหมด ต่อมาเมื่อครบกำหนดชำระค่างวดธนาคาร ไม่สามารถที่จะหักเงินจากบัญชีเงินเดือนของทั้ง 14 คนได้ จึงทำหนังสือทวงถามและส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายเข้าพบ แต่ทั้งหมดให้การว่าได้ร่วมกับนายเก่ง กระทำการดังกล่าว โดยที่นายเก่งเป็นผู้จัดทำเอกสาร โดยต้นสังกัดไม่ได้ออกเอกสารให้แต่อย่างใดเอกสารที่ใช้ในการกู้เงินกับธนาคารนั้นเป็นเอกสารเลียนแบบของทางราชการทั้งหมดตามเงื่อนไขในการกู้ โดยที่ทหารทั้ง 14 นายมีเพียงมาทำสัญญาเงินกู้ และการจดจำนองหลักทรัพย์ ตามเงื่อนไขของธนาคารที่ขอนแก่น เท่านั้น”

ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ผู้ที่ร่วมขบวนการทั้ง 14 คน ได้ทยอยมารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ตำรวจได้มีการ ประสานงานไปยัง มทบ.23 ในฐานะที่เป็นค่ายทหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ในการให้ทหารที่ร่วมขบวนการนั้นมารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด และจากการสอบสวนพบว่าส่วนใหญ่นั้นได้เงินเงินส่วนแบ่งคนละ 100,000 บาท เท่านั้น

ส่วนเรื่องการทำสัญญาซื้อขาย การจดจำนอง หรือการกระทำการใดๆกับธนาคาร นั้นเป็นหน้าที่ของนายเก่ง ทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวนายเก่ง ได้แล้ว และให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี มีการรับสารภาพ จึงตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการ ร่วมกันฉ้อโกง ก่อนทำการควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน