ปคบ.-อย. บุกจับแก๊ง ปลอมผลตรวจโควิด ใช้สมัครงาน-เดินทางต่างประเทศ จ่ายไม่ถึงพัน ไม่ต้องไปตรวจเอง สามารถใช้งานได้จริง เผย 3 เดือนได้เงินกว่า 5ล้าน
วันที่ 16 มี.ค.2565 พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. และ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันขายเอกสารใบรับรองผลตรวจโควิดปลอม ผู้ต้องหา 3 ราย
พ.ต.อ.ธรากร กล่าวว่า ช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ทางบก.ปคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ว่า มีผู้ที่ลักลอบปลอมแปลงเอกสารผลตรวจโควิด แล้วนำมาขายให้กับบุคคลทั่วไป เพื่อจะใช้สมัครงาน หรือเดินทางไปต่างประเทศ โดยผู้ซื้อไม่ต้องไปตรวจหาเชื้อแต่อย่างใด
ปคบ.-อย. บุกจับแก๊ง ปลอมผลตรวจโควิด ใช้สมัครงาน-เดินทางต่างประเทศ จ่ายไม่ถึงพัน ไม่ต้องไปตรวจเอง
พ.ต.อ.ธรากร กล่าวต่อว่า จากการสืบสวน พบเบาะแสทางเว็บไซต์ https://covid-lab.airsite.co ที่มีการโฆษณาขายใบรับรองผลการตรวจโควิด ในราคา 890 บาท สามารถรับผลได้ภายใน 15 นาที ไม่ต้องเดินทางไปตรวจด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่ติดต่อล่อซื้อ ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ชื่อ “PCR TEST 890 -” เพียงแค่แจ้งชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด และวันที่ที่ต้องการให้ระบุในผลตรวจ
พ.ต.อ.ธรากร กล่าวอีกว่า จากนั้นผู้ต้องหาจะส่งใบรับรองผลการตรวจมาให้ ผ่านบัญชีผู้ใช้ไลน์ดังกล่าว และพบอีกว่า ใบรับรองผลการตรวจดังกล่าว เป็นของบริษัท พีซีที ลาบอราตอรี่ เซอร์วิส จำกัด เมื่อตรวจสอบกับบริษัทดังกล่าวก็พบว่า เป็นใบรับรองผลการตรวจโควิดปลอม ทางบริษัทมิได้เป็นผู้ออกให้แต่อย่างใด พร้อมกับขอแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมด้วย
ด้าน พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่า คดีนี้มีเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดหลายคน มีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน เช่น ออกแบบเขียนเว็บไซต์, ยิงแอดโฆษณา, แอดมินพูดคุยกับลูกค้า, จัดหาบัญชีธนาคารของผู้อื่น (บัญชีม้า) เพื่อยักย้ายถ่ายเทเงินที่ได้จากการกระทำความผิด และทำปลอมแปลงใบรับรองผลการตรวจโควิด จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหา
พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่า ประกอบด้วย น.ส.พลอย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี, นายวีรพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี และ นายมูนีร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 406-407-408 /2565 ลงวันที่ 3 มี.ค.2565 ข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์สาขาต่างๆ, ร่วมกันให้บริการหรือ เสนอให้บริการที่ใช้เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง หรือร่วมปลอมเครื่องหมายของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร
พ.ต.อ.เนติ กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 3-4 มี.ค.ที่ผ่านมา จึงได้ประสานกับ พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5.บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. ตามจับ น.ส.พลอย ได้ที่อพาร์ตเมนต์ ย่านบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. นายวีรพล ได้ที่บริเวณถนนวิชิตสงคราม อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ส่วนนายมูนีร ได้ขอเข้ามอบตัว
จากการสอบสวน น.ส.พลอย ให้การปฏิเสธ ส่วนนายวีรพลและนายมูนีร ให้การรับสารภาพว่า เมื่อกลางปี 2564 นายมูนีร จะเดินทางไปประเทศตุรกี ต้องการใช้ใบรับรองผลการตรวจโควิด จึงติดต่อมาหานายปังปอนด์ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ที่รู้จักกันทางทวิตเตอร์ เพื่อให้ปลอมแปลงใบรับรองผลการตรวจโควิดให้ พร้อมกับนำเอกสารดังกล่าวไปใช้เดินทางได้จริง ๆ หลังกลับมาจึงตกลงกับนายปังปอนด์ว่า จะทำใบรับรองผลการตรวจโควิดปลอมออกขาย
โดยนายปังปอนด์ ได้ไปจัดหาซื้อบัญชีม้าจาก น.ส.พลอย และนายวีรพล ผ่านทางเฟซบุ๊ก ราคาบัญชีละ 3,500 บาท จากนั้นได้ไปจ้างบริษัทเขียนเว็บไซต์ และยิงแอดโฆษณา เมื่อมีผู้สนใจ นายมูนีร ก็จะเป็นแอดมินพูดคุยตกลง ก่อนนำรายละเอียดส่วนตัวของลูกค้าส่งไปให้นายปังปอนด์ ทำการปลอมแปลงใบรับรองผลการตรวจ และส่งต่อให้กับลูกค้า หลังจากลูกค้าชำระเงินเรียบร้อยแล้ว นายมูนีร จะเป็นผู้รวบรวมและนำมาแบ่งกันในกลุ่ม ซึ่งพบว่า ตั้งแต่เดือนพ.ย.64-ม.ค.65 ผู้ต้องหามีรายได้เงินจากการขายใบรับรองผลปลอมไปแล้วประมาณ 3 แสนบาท
ขณะเดียวกันยังพบอีกว่า กลุ่มผู้ต้องหายังลักลอบขายวุฒิการศึกษาปลอม เพื่อนำไปใช้การสมัครเรียนต่อ หรือทำงาน ผ่านเว็บไซต์ https://gray-mulniti.com โดยมีให้เลือกตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา จนถึงปริญญาโท ราคาตั้งแต่ 1,500-7,000 บาท รวมทั้งยังรับปลอมแปลงใบขับขี่ บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ โฉนดที่ดิน ทะเบียนรถ อีกด้วย
โดยพบว่า เพียงแค่ 3 เดือน ผู้ต้องหามีรายได้จากการปลอมแปลงเอกสารไปแล้วประมาณ 5 ล้านบาทด้วย จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งกก.4.บก.ปคบ.ดำเนินคดี และขยายผลหาตัวนายปังปอนด์และผู้ร่วมขบวนการต่อไป
