จากกรณีนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ ร็อกเกอร์ชื่อดัง ยิงปืนขึ้นฟ้านับ 10 นัด หลังเล่นคอนเสิร์ต ภายในวัดเขาขุนพนม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนถูกตำรวจ สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ออกหมายจับ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลได้บุกเข้าไปจับกุมตัวที่บ้านพักย่านวัชรพล กทม. โดยเสก โลโซ มีท่าทีขัดขืน พร้อมทั้งเอาอาวุธปืนออกมาและขึ้นลำรอไว้ แต่ก็ยอมจำนนและถูกควบคุมตัวไปที่ สน.คันนายาว โดยตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วงนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 ม.ค. ที่ บ้านพักของ เสก โลโซ ได้มีการพูดคุยเปิดใจ เล่าเหตุการณ์ถึงวันเกิดเหตุที่ได้ตัดสินใจ ยิงปืนขึ้นฟ้า ว่า คืนนั้นตนไปวัดเขาขุนพนม และเป็นลูกศิษย์ ทำบุญบริจาคอยู่หลายครั้ง โดยในวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบครองราชของพระเจ้าตากสิน เจ้าอาวาสเชิญให้ตนไปเล่นคอนเสิร์ต
หลังจากจบคอนเสิร์ต ช่วงเวลา 02.00 น. ตนได้ไลฟ์สดยิงปืน ขึ้นฟ้า เนื่องจากตนนั้นเป็นคนที่พกปืนอยู่แล้ว และได้บนไว้ว่าหากตนมีลูก ตนจะมาแก้บนด้วยการยิงปืน ตนจึงได้แก้บน ยิงปืนไป 10 นัด โดยพิจารณาแล้วว่าบริเวณรอบข้างเป็นภูเขา พื้นที่โล่ง ไม่มีผู้คน จึงได้ตัดสินใจยิง
รุ่งเช้าตนจึงได้โทรไปคุยกับทางเจ้าอาวาสวัดเขาขุนพนม และได้แจ้งไปว่ามีการยิงปืนแก้บน ทางเจ้าอาวาสวัดไม่ได้ติดใจอะไร และบอกกับตนว่าเป็นเรื่องปกติ มีชาวบ้านมายิ่งแก้บนกันเป็นประจำ
ต่อมาเมื่อตนเห็นข่าวและตกใจที่ออกหมายจับที่ไปยิงแก้บน ตนเห็นข่าวว่าตำรวจจังหวัดหนองคายจะมาจับตน ซึ่งตนมีแสดงคอนเสริต์ที่จังหวัดหนองคายพอดี ตนเกรงว่าถ้าไปที่นู้นก็โดนจับ และไปสร้างความเสียหายให้กับเจ้าภาพที่จ้างตน ตนจึงรออยู่ที่บ้านให้โดนจับดีกว่า และยืนยันไม่ได้มีการหนี
ต่อมาวันที่ 31 ธ.ค. เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาหาที่บ้านและบอกให้ไปมอบตัว ตนจึงบอกว่าขอไปเล่นคอนเสิร์ตที่พัทยาก่อนเนื่องจากมีงาน และจะไปมอบตัวที่โรงพักเอง เพราะตนคิดว่าหากตนไม่ไป อาจเกิดความเสียหายมากกว่า จึงได้ให้ทนายส่วนตัวไปพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอม
ต่อมา พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว เดินทางมาจับตนพร้อมกับบอกว่ามีหมายจับ แต่ตนอยู่บนบ้าน ตนจึงได้ให้ลูกน้องบอกกับทาง พ.ต.อ.สิงห์ ว่า ถ้าหากจะจับตนและจะเข้าบ้านต้องมีหมายค้น จากนั้น ถัดมาอีก 1 ชั่วโมง
ทาง พ.ต.อ.สิงห์ ได้ขออนุญาตเข้าไปในบ้าน พร้อมบอกว่ามีหมายค้น ตนจึงรู้สึกสงสัยว่าทำไมหมายค้นถึงมีความรวดเร็ว มาภายใน 1 ชั่วโมง เนื่องจากวันที่ 31 ธ.ค. เป็นวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความรวดเร็วเกินไป ตนจึงให้ลูกน้องขอดูหมายค้น แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ดู จึงไม่เห็นรายละเอียดของหมายค้นชัดเจน ตนจึงไม่ยอมให้เข้าบ้าน
ต่อมาเวลา 16.00 น. พล.ต.ต สมพงษ์ ชิงดวง รอง.ผบช.น. พังรั้วเข้ามาที่บ้านของตน ตนเห็นว่าผิด ไม่ยอมให้เข้ามา เนื่องจากไม่มีหมายค้น หลังจากนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ตามไลฟ์สด มีการพูดคุยกับพล.ต.ต สมพงษ์ ตามคลิปดังกล่าว
ตนรู้สึกสงสัยว่าคนที่ยิงปืนขึ้นฟ้า จำเป็นต้องถือปืน อาวุธสงครามถล่มประตูเข้ามาเพื่อจับตน หลังจากนั้นตนจึงเห็นหมายค้นแจ้งว่าสามารถได้แค่ถึง 18.00 น. จึงได้พังรั้วเข้ามาที่บ้าน ในตอนนั้นตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากตนไม่คิดหนี และจะไปมอบตัวด้วยตนเอง
ตนจึงได้เดินทางมาสอบปากคำและยินดีให้ตรวจสอบปัสสาวะ ผลออกมาเป็นสีม่วง แต่ตนยืนยันว่าทานยานอนหลับและยาไบโพล่า โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โดยยืนยันว่าไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะที่บ้านตนไม่มีอุปกรณ์การเสพยา หรือยาเสพติดอยู่ภายในบ้าน รวมถึงตรวจปัสสาวะจากคนรอบข้าง ก็ยืนยันไม่ได้มีการเสพยาอย่างแน่นอน
หลังจากเกิดเหตุการณ์วันนั้น ตนยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานด้วยความจริงใจและถูกต้อง โดยตนนั้นไม่ได้รับไม่ได้รับสิทธิพิเศษ นอนในห้องขังเช่นเดียวกับคนทำผิด ตนผิด ตนยอมรับผิดและแก้ไข เคารพทุกฝ่าย และไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายใคร
หลังจากประกันตัวจึงได้มีการขอเลี้ยงข้าว พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผกก.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช และ พ.ต.ท.ธีรพล พุ่มพิชัย สวป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และนักธุรกิจ นักการเมืองอีกมากมายเพื่อทานข้าว สังสรรค์ กันตามปกติ ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ และ พ.ต.ท.ธีรพล พุ่มพิชัย โดนคำสั่งย้ายอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ถ้าหากตรวจสอบว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ จะมีการฟ้องกลับอย่างแน่นอน
