สั่งรื้อแล้ว คาน 4 ตัว สะพานกลับรถพระราม 2 เปิดเส้นทางเบี่ยง สำรวจอีก 16 แห่ง

จากกรณีคานสะพานกลับรถ ถนนพระราม 2 หน้าโรงพยาบาลวิภาราม ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่อยู่ระหว่างการปิดซ่อมบำรุง พังถล่มลงมาทับรถยนต์ที่สัญจรอยู่บนถนนพระราม 2 ช่องทางด่วน ขาเข้า กทม. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 2 ส.ค.65 ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประไทยฯ และคณะผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วย นายณรงค์ รักร้อย ผวจ.สมุทรสาคร และ นายประลองยุทธ์ กสิวงศ์ ผอ.แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณสะพานกลับรถ ถนนพระราม 2 โดยได้เข้าตรวจสอบสภาพบนสะพานอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดไปวิเคราะห์และสรุปแนวทางที่ชัดเจนในการดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมสะพานกลับรถแห่งนี้

ดร.ธเนศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบวันนี้ ทำให้เห็นสภาพชำรุดที่ยังคงค้างอยู่ จากคานที่ยังอยู่ด้านบนกับเหล็กที่ยังค้างอยู่ ซึ่งเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นว่าสภาพที่เห็นนั้นน่าจะเกิดจากอะไรได้บ้าง อีกทั้งยังเป็นการตรวจสอบเพื่อประเมินความปลอดภัยหรือความเสี่ยงของพี่น้องประชาชนที่ต้องสัญจรผ่านบริเวณพื้นที่นี้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน และนำข้อมูลที่เห็นเหล่านี้ไปพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะมีการแก้ไขสภาพปัญหาที่พบอย่างไร รวมถึงการหารือเพื่อดูว่าจะมีตัวอื่นอีกหรือไม่ที่อาจจะเกิดสภาพแบบเดียวกันนี้ เพื่อนำไปสู่การป้องกันและแก้ไข

สำหรับการซ่อมสะพานแห่งนี้ เป็นลักษณะของการมีพื้นวางอยู่บนคานหลักและยังมีคานซอยเป็นตัวยึด ซึ่งหากจะรื้อออกก็จะต้องเริ่มรื้อจากพาราเพ็ท หรือ แผงกั้นขอบทางที่ใช้กันรถตกออกก่อน แล้วจึงรื้อพื้นทำใหม่ แต่จากการวิเคราะห์สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สาเหตุที่อาจเป็นไปได้นั้น น่าจะมาจากการรื้อพื้นก่อน เลยทำให้ตัวคานยึดที่เคยถูกทับด้วยพื้นไว้นั้นเกิดการอิสระ พอคานยึดเป็นอิสระแต่คานตัวริมยังมีพาราเพ็ทยื่นออกไป ก็เลยทำให้เกิดการบิดคาน เนื่องจากคานตัวยึดรองรับน้ำหนักไม่ไหวก็เลยร่วงลงมา

เพราะฉะนั้นทุกครั้งเวลาที่ได้พูดคุยกันทางวิศวะกรรม จึงต้องบอกว่าเป็นการมาดูทางกายภาพเบื้องต้น เพื่อที่จะได้นำไปศึกษาในเชิงลึก ขณะที่การประชุมการแก้ไขปัญหาสภาพการจราจร และสร้างความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน พร้อมทั้งสอดคล้องกับคำสั่งของอธิบดีกรมทางหลวงนั้น ก็จะทำการถอดคาน 4 ตัวที่เหลือทั้งหมดออก เพื่อเปิดเส้นทางการสัญจรให้แก่พี่น้องประชาชนและไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดการร่วงลงมาอีก

ดร.ธเนศ กล่าวต่อว่า หากมีโครงการอื่นที่จะต้องดำเนินการเช่นนี้ ตลอดถนนพระราม 2 ที่มีอยู่ราวๆ 16 แห่งนั้น การดำเนินงานก็จะต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอน และที่สำคัญคือ เรื่องของการตรวจสอบโครงสร้างโดยวิศวกรรมสถานฯ และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญนั่นเอง

ขณะที่สภาพการจราจรบนถนนพระราม 2 วันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้มีการเปิดช่องทางพิเศษ ( Reverse lane) สำหรับรถขาเข้า กทม. โดยใช้ช่องจราจรฝั่งขาออก กทม. 1 ช่องจราจร ซึ่งได้เปิดให้แต่เฉพาะรถยนต์ไม่เกิน 4 ล้อเบี่ยงออกขวาตรง กม.ที่ 36 วิ่งในช่องทางพิเศษ ก่อนเข้าสู่ช่องทางปกติช่วง กม.ที่ 32 หรือก่อนขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ส่วนรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป แยกให้ไปฝั่งซ้ายออกช่องคู่ขนานตามปกติ ซึ่งก็ทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น

ทั้งนี้ นายประลองยุทธ์ กสิวงศ์ ผอ.แขวงทางหลวงสมุทรสาคร บอกว่า การเปิดช่องทางพิเศษนี้จะมีไปจนกว่าการจราจรฝั่งขาเข้าที่ติดขัดจะเบาบางลง แล้วก็จะปิดตามเดิม โดยจะเลือกเปิดช่องทางพิเศษเฉพาะช่วงเวลาที่การจราจรหนาแน่นเท่านั้น ส่วนการยกคานเก่าที่เหลือออกตามคำสั่งของอธิบดีกรมทางหลวง จะเริ่มดำเนินการทันทีในวันนี้ หลังจากที่นำเครื่องจักรมาพร้อมในบริเวณดังกล่าวแล้ว ซึ่งก็คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในคืนนี้ จากนั้นก็จะเปิดช่องทางด่วนขาเข้า กทม. ให้ประชาชนใช้ได้ตามปกติ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน