เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจรถไฟหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.รฟ. พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล รองผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.มงคล พรหมเมศร์ สว.ตำรวจรถไฟหัวหิน พร้อม ตำรวจ บช.ปส. ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 7 ร่วมกันตรวจสอบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 5 ใบและกระเป๋าเป้อีก 4 ใบ บนขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโกลก

จากการตรวจค้นพบว่ากระเป๋าทั้ง 9 ใบ มียาไอซ์บรรจุถุงๆละกว่า 1 กิโลกรัม วางเรียงอัดแน่นเต็มทุกกระเป๋า โดยกระเป๋าเดินทางบรรจุใบละ 36-44 ก้อน ส่วนกระเป๋าเป้ บรรจุใบละ 11-14 ก้อน นับรวม 250 ก้อน น้ำหนักหนักรวมกว่า 300 กิโลกรัม มีมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. และตำรวจรถไฟ สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาไอซ์ล็อตใหญ่มาทางรถไฟเพื่อลงภาคใต้ ด้วยขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโกลก โดยหลังจากรถไฟออกจากกรุงเทพฯ และกำลังแล่นเข้าสถานีรถไฟบ้านโป่งคาดว่ากลุ่มผู้ต้องหา 4 คนที่ขนมาไหวตัวทัน เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ปะปนไปกับขบวนรถฉวยโอกาสช่วงรถไฟวิ่งเข้าสถานีกระโดดรถไฟหลบหนีไปได้

ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่สในโบกี้ที่ 13/1 เป็นรถนอนแบบพัดลม เลขที่นั่ง/นอน 1-4 ไม่ทราบเลขที่ตั๋วโดยสาร พบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 5 ใบ เป้สะพาย 4 ใบ มียาไอซ์ ซุกซ่อนมาเป็นจำนวนมาก จึงได้คุมขบวนรถไฟมาตรวจสอบที่สถานีรถไฟหัวหิน โดยเข้าตรวจค้นทุกตู้โบกี้ รวม 18 ตู้โบกี้ โดยขอให้ผู้โดยสารลงไปรอด้านล่างก่อน ถือเป็นการสกัดจับยาไอซ์ที่ขนลงภาคใต้ล็อตใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจับกุมได้

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและเก็บดีเอ็นเอ และรอยนิ้วมือแฝงจากบนถุงยาไอซ์และที่กระเป๋า เพื่อนำไปตรวจสอบหาตัวคนร้าย ขณะที่ตำรวจอีกชุดจัดกำลังออกติดตามตัว 4 คนร้ายที่กระโดดลงรถไฟหลบหนีไปแล้ว ส่วนของกลางทั้งหมดคาดว่าจะนำเข้ากรุงเทพฯเพื่อแถลงข่าวอย่างเป็นทางการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน