เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 8 ก.พ. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หลังถูกจับกุมกลางป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง อาวุธปืนและเครื่องกระสุน ว่า สั่งการพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ไปแล้วว่าคดีนี้ให้ขยายผลให้ถึงที่สุด ยืนยันว่าตำรวจไม่มีความกังวล แม้นายเปรมชัยจะเป็นนักธุรกิจใหญ่ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันหมด ส่วนจะขยายผลถึงใครบ้างนั้น เรื่องนี้พล.ต.อ.ศรีวราห์ ทราบดีว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้เชิญเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มาสอบสวนในประเด็นการติดสินบนเจ้าพนักงาน ว่าใครเป็นผู้ที่ติดสินบน ส่วนจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้หรือไม่ ต้องรอสอบปากคำเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ก่อน ขณะเดียวกันจะสอบปากคำเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ด้วยว่าเพราะเหตุใดถึงปล่อยปละละเลยให้กลุ่มของนายเปรมชัย เข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าได้ ส่วนอาวุธปืน 43 กระบอกที่ยึดได้ในบ้านพักของนายเปรมชัย เป็นปืนมีทะเบียนถูกต้องทุกกระบอกหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ เพราะบางกระบอกยังไม่ได้หลักฐาน อย่างไรก็ตามเรื่องทะเบียนอาวุธปืนเป็นอำนาจของฝ่ายปกครอง ตนไม่สามารถก้าวล่วงได้

“สำหรับคดีนี้ยืนยันว่าไม่มีอุปสรรคใดๆ แม้ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าใครเป็นผู้ที่ยิงสัตว์ แต่จากพยานหลักฐานขณะนี้ก็มีความชัดเจน ที่ผ่านมาตำรวจเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆในคดี ทั้งดีเอ็นเอ เขม่าดินปืน เพียงพอที่จะฟ้องดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้แล้ว หลักฐานแค่นี้ก็ฟ้องได้แล้วเหลือเฟือ ไม่จำเป็นต้องมีประจักษ์พยานว่าใครเป็นคนยิงสัตว์ ยืนยันว่าหลักฐานแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะที่ตรงนั้นไม่ใช่ที่จะไปเที่ยวเป็นที่สาธารณะ คุณเข้าไปไม่ขออนุญาตเจตนาก็ชัดเจนอยู่แล้ว ระเบียบห้ามไม่ให้นำอาวุธปืนเข้าไปคุณเอาเข้าไปก็ชัดเจน ยิ่งพบซากสัตว์อยู่ก็ชัดเจน ตำรวจไม่มีความกังวล ผบ.ตร.ก็กำชับให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันคดีนี้วิ่งเต้นไม่ได้” รองผบ.ตร.กล่าวและว่า สำหรับตัวของนายเปรมชัย ขณะนี้ยังอยู่ในประเทศ ไม่ได้หายตัวไปไหน ยังติดต่อได้ ส่วนจะมีออกหมายเรียกมาพบพนักงานสอบสวนเมื่อใด ตรงนี้ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่ปรากฏภาพหนังเสือโคร่งในห้องทำงานของนายเปรมชัย แชร์ในโซเชียลมีเดีย จากการเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชุดที่เข้าตรวจค้นว่าไม่พบหนังเสือดังกล่าว แต่เท่าที่ทราบ ภาพถ่ายดังกล่าวถ่ายเมื่อกว่า 20 ปีมาแล้ว หากเจอหนังเสือ คดีก็ขาดอายุความไปนานแล้ว ต่อให้สารภาพก็ดำเนินคดีเขาไม่ได้ เพราะคดีขาดอายุความไปแล้ว ส่วนเรื่องงาช้าง 2 คู่ที่พบในบ้านของนายเปรมชัย ในความเห็นตนไม่ใช่งาช้างไทย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จดทะเบียนไม่ได้ ขณะนี้ส่งตรวจดีเอ็นเอแล้ว เพื่อตรวจสอบว่างาช้างดังกล่าวเป็นช้างไทยหรือช้างแอฟริกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน