วันที่ 11 ก.พ. ร.ต.อ.รณชัย กาญจนภักดิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สวี จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุจาก นางสวรรยา บริคช อายุ 35 ปี อ.สวี ว่านายสุวรรณ บริคช อายุ 76 ปี และนางธิดา บริคช อายุ 63 ปี พ่อและแม่ ของตนถูกวางยาเบื่อในแท็งก์น้ำหลังบ้านหลังทั้งสองคนดื่มเข้าไปจนเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนที่ลำคอและช่องท้องหายใจติดชัดร้องครวญครางด้วยคามเจ็บปวด จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ แพทย์ต้องล้างท้องอย่างเร่งด่วนตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว

หลังจากนั้นได้ไปตรวจสอบน้ำที่พ่อและแม่ดื่ม มีกลิ่นเหม็นฉุนและในแท็งก์น้ำก็มีสีขาวขุ่นเข้ม จึงนำไปให้โรงพยาบาลตรวจสอบ เบื้องต้นหมอบอกว่าเป็นน้ำมีสารพิษผสมแต่ยังไม่สามารถระบุชนิดได้ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.คำสิงห์ ศรียาภัย ผกก.สภ.สวี ทราบแล้วเดินทางไปสอบสวนที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อำพร รักผะกา รอง.ผกก.ป. ร.ต.ท.พสธร บุญคง ร้อยเวร 20 และชุดสืบสวน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนยางพาราบนเนื้อที่ 60 ไร่ห่างจากถนนเอเชีย41 ประมาณ 20 กิโลเมตร หลังบ้านพบมีแท็งก์น้ำทำจากท่อปูนซีเมนต์ขนาดความกว้าง 1 เมตรจำนวน 5 ท่อ ต่อติดกันแล้วฉาบด้วยปูนซีเมนต์ จำนวน 4 แท็งก์ เป็นแท็งก์น้ำใช้ทั่วไป 2 แท็งก์ และอีก 2 แท็งก์ใช้บริโภคในครัวเรือนโดยใช้ท่อพีวีซีต่อเป็นประปาเข้าไปใช้ในบ้าน จากการตรวจสอบพบ 1 ใน 2 ของแท็งก์ที่ใช้บริโภคน้ำมีสีขาวขุ่นและส่งกลิ่นเหม็นฉุนคล้ายกลิ่นสารเคมีเจือปน น้องจากนั้นภายในครัวบ้านยังพบว่าน้ำที่ 2 ตายายเปิดจาก๊อกเก็บไว้ในโอ่งและในกระติกน้ำร้อนก็เป็นน้ำสีขาวขุ่นเข้มมีกลิ่นเหม็นฉุนสารเคมีเช่นกัน จึงน้ำขวดน้ำพลาสติกเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

จากการสอบสวน นางสวรรยา บริคช ให้การกับตำรวจว่าช่วงตอนหัวค่ำประมาณ 1 ทุ่มของวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่งห่างกันประมาณ 100 เมตร นายสุวรรณผู้เป็นพ่อได้เดินกระเสือกกระสนมีอาการคอแห้งปากแห้งแสบท้องอย่างรุนแรง มาเรียกให้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลที่เนื่องจากหลังกินข้าวเสร็จได้ดื่มน้ำจากก๊อกน้ำที่ต่อมาจากแท็งก์น้ำหลังบ้านแล้วมีอาการดังกล่าวและแม่ก็มีอาการเช่นเดียวกัน ตนจึงรีบขับรถกระบะพาพ่อและแม่ไปโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทั้งพ่อและแม่ อาการแย่ลงถึงขั้นโคม่า แพทย์ต้องรีบล้างท้องและให้น้ำเกลือ กระทั่งตอนนี้ทั้งคู่อาการเริ่มดีขึ้นแล้วแต่แพทย์ยังไม่อนุญาตให้กลับบ้านได้ อีกทั้งแพทย์ลงความเห็นว่าน้ำมีสารพิษเจือปนแต่ยังไม่ทราบชนิด ต้องรอผลตรวจอย่างเป็นทางการอีกประมาณ 2 สัปดาห์ถึงจะทราบผล

นางสวรรยา ให้การต่ออีกว่าก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปี มีพฤติกรรมชอบมาหยิบสิ่งของภายในบ้านไปโดยไม่บอกกล่าว ได้นำเหล้าขาวมานั่งดื่มกินที่บ้าน แต่นายสุวรรณผู้เป็นพ่อไม่พอใจเพราะชอบเอะอะโวยวายส่งเสียงดังจึงได้ว่ากล่าวและไล่ออกจากบ้านไป นอกนั้นพ่อก็ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ซึ่งขณะนี้ตำรวจพอจะทราบแล้วใครคือผู้อยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัย

ร.ต.อ.รณชัย กาญจนภักดิ์ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.สวี กล่าวว่าเรื่องนี้เข้าองค์ประกอบฐานพยายามฆ่า และเจตนาฆ่ายกครัวเลยทีเดียว และหากบุตรสาวไม่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล 2 ตายายอาจเสียชีวิตก็เป็นได้ เบื้องต้นได้ส่งน้ำไปตรวจพิสูจน์ พร้อมกับให้ชุดสืบสวนเชิญตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำแล้วและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกมคนร้ายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน