ความคืบหน้ากรณีนายทิษณุ โถนารัตน์ อายุ 29 ปี หรือชิต หรือทิษ สายเบิร์น ชาว อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ คนร้ายในคดีพยามฆ่าและข่มขืนนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดังใน จ.กาฬสินธุ์ เข้ามอบตัวกับตำรวจ เพราะเกรงว่าจะถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่ประกาศจับตายหากยิงต่อสู้ขัดขืนระหว่างจับกุม และกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นามน จ.กาฬสินธุ์ คุมตัวมาสอบสวน และชี้จุดทำแผนฯ ตามเส้นทางถนนตั้งแต่อ.สมเด็จ ไปจนถึง จ.สกลนคร ระยะทางกว่า 80 กม. ที่คนร้ายก่อเหตุฉุดนักศึกษาสาวขึ้นรถขับไปตามถนนสายดังกล่าว ซึ่งระหว่างทางโดยเฉพาะถนนบริเวณบนเขาภูพานได้จอดรถแวะตามริมถนนแล้วใช้อาวุธปืนจี้บังคับพยายามขืนใจนักศึกษาสาวถึง 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ จนขับรถไปถึงเขตพื้นที่ จ.สกลนคร แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มในเขต อ.เมืองสกลนคร จากนั้นขับรถกลับไปยังพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และระหว่างทางได้บังคับและพยามข่มขืนนักศึกษาสาวอีกครั้ง ที่บริเวณริมถนนสายดังกล่าว บ้านหนองผำ ต.โคกคู อ.ภูพาน จ.สกลนคร ก่อนจะปล่อยตัว เหยื่อจึงรีบวิ่งหนีเข้าป่า

ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 17 ก.พ. 2561 พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.โสภณ วารี รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไทยพุทธา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ณัฏฐ์ภาณพ วัชระเสวี ผกก.สภ.นามน พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.กฤษดา ขันโสดา รอง ผกก.สืบสวน สภ.นามน นายชนิพนธ์ สงวนสัตย์ นายอำเภอนามน พร้อมตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ และกำลังทหารคุมตัวนายทิษณุ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพิ่มเติมตั้งแต่บริเวณสามแยกทางเข้ามหาวิทยาลัย หลังจากเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่คุมไปไปชี้จุดและทำแผนตามเส้นทางถนนตั้งแต่อำเภอสมเด็จไปจนถึง จ.สกลนคร โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นายคอยคุ้มกันความปลอดภัยท่ามกลางเพื่อนนักศึกษา และชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์ และตะโกนสาปแช่ง

การทำแผนฯ เป็นไปตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหา เริ่มตั้งแต่บริเวณสามแยกทางเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นจุดที่นายทิษณุขับรถโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน บย 8560 กาฬสินธุ์ หลังจากเสพยาบ้าและดื่มสุรามาในรถ เพื่อตะเวนหาเหยื่อหมายจะฉุดไปข่มขืน กระทั่งมาพบ 2 นักศึกษาชายและหญิงที่ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากปั๊มน้ำมัน จึงขับตามพยายามปาดหน้าที่บริเวณหน้าฝรั่งรีสอร์ทแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากทั้ง 2 คน พยายามขี่รถหนี จนกระทั่งตามไปถึงบริเวณถนน สายโนนสำราญ-หนองน้อย หน้าวัดอรัญญิกาวาส หรือวัดบ้านหนองโพนสูง หมู่ที่ 13 ต.ยอดแกง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ได้ขัดปาดหน้าจนรถจักรยานยนต์ล้มลง แล้วลงไปยิงหน้านักศึกษาชาย แล้วฉุดนักศึกษาสาวขึ้นรถไปข่มขืน

ทั้งนี้ นายทิษณุ รับสารภาพว่า ตนมีอาชีพรับจ้างกรีดยางและขับรถส่งก้อนยาง ก่อนเกิดเหตุทะเลาะกับภรรยาเรื่องปัญหาครอบครัว จึงเสพยาบ้าไป 3 เม็ด พร้อมกับดื่มเหล้าขาวมาในรถจนเมาได้ที่ และเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงขับไปตามถนนสายต่างๆ เพื่อตะเวนหาเหยื่อที่จะฉุดไปข่มขืน เริ่มตั้งแต่ อ.คำม่วงไปตามเส้นทาง อ.สหัสขันธ์ เข้าตัวเมืองกาฬสินธุ์ ก่อนมุ่งหน้าไปยัง อ.สมเด็จ กระทั่งมาพบ 2 นักศึกษาที่ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากปั๊ม บริเวณสามแยกไฟแดงทางเข้ามหาวิทยาลัย จึงเร่งเครื่องขับตามและขับปาดหน้า ยิงนักศึกษาชายแล้วฉุดตัวนักศึกษาผู้หญิงไป

จากนั้นนำตัวขึ้นรถ ขับไปตามถนนสายอำเภอสมเด็จ-สกลนคร ระหว่างทางได้จอดรถนำเสื้อของเหยื่อมัดมือ ใช้ปืนจี้บังคับให้ถอดเสื้อผ้า และลงมือขืนใจภายในรถบริเวณแค๊ปหลังเบาะนั่งคนขับ 3 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ พร้อมยึดเอาเงินเหยื่อจากกระเป๋าจำนวน 3,000 บาท จนไปถึงเขต อ.เมืองสกลนคร จึงได้แวะเติมน้ำมัน ก่อนขับรถกลับ จ.กาฬสินธุ์ ระหว่างทางได้ลงมือข่มขนเหยื่ออีกครั้ง ก่อนจะปล่อยตัวไป โดยระหว่างการปล่อยตัวได้ให้โอกาสวิ่งหนี 10 วินาที จากนั้นจึงขับรถกลับบ้าน และไปทำงานกรีดยางตามปกติ จนมาทราบข่าวถูกตามจับ จึงหนีเข้าป่าและกลัวจะถูกวิสามัญฯ จึงขอเข้ามอบตัวดังกล่าว

พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มความสามรถ พร้อมกับกดดันอย่างหนัก เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ กระทั่งคนร้ายยอมมอบตัว ซึ่งหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว เจ้าหน้าที่จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน พร้อมนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยแจ้งข้อหา 1.พยามฆ่าผู้อื่น 2.ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการไม่กระทำการโดยมีอาวุธ 3.พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุอันสมควร 4.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรืออยู่ในภาวะที่ไม่ขัดขืนได้ และแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 3 ข้อหา คือ ชิงทรัพย์ ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และกักขังหน่วงเหนี่ยว เนื่องจากคนร้ายได้เอาเงินผู้เสียหายไปด้วย

ทั้งนี้ เบื้องต้นจากการสอบปากคำและคำรับสารภาพ คนร้ายรายนี้ถือเป็นบุคคลอันตราย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อกับคำให้การว่าก่อเหตุครั้งแรก เพราะเท่าที่สอบถามหากทะเลาะกับภรรยาครั้งใดก็มักเสพยา ดื่มสุรา และเกิดอารมณ์ทางเพศ และจะขับรถออกจากบ้าตระเวนไปทุกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องสืบสวนว่าเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้อีกหรือไม่

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่านักศึกษาชายที่ถูกยิง ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ อาการดีขึ้นตามลำดับ เบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยจะออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมด เนื่องจากมีประกันสุขภาพนักศึกษา ส่วนนักศึกษาหญิงยังอยู่ในอาการหวาดผวา และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เก็บตัวเงียบ มีเพียงเพื่อนๆ คณะครู อาจารย์ และญาติที่คอยดูแลใกล้ชิด และต้องคอยปลอบขวัญให้กำลังใจเท่านั้น แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องของภาครัฐเข้าไปดูแลช่วยเหลือ หลังจากต้องประสบเคราะห์กรรมตกเป็นเหยื่อภัยของสังคม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน