“ปณิธาน” เผย “บิ๊กป้อม” สั่งชุดติดตามสถานการณ์กลาโหมจับตากองทัพสหรัฐฯ ถล่มซีเรีย เชื่อไม่กระทบเอเชีย-ไทย คาดยังไม่เกิดสงครามใหญ่-สงครามเย็น บอกจุดยืนไทยอยู่ตรงกลาง เผยกำหนดการประชุมรมว.กลาโหมสหรัฐฯ ยังไม่ยกเลิก ขณะที่“ประวิตร” เตรียมบินร่วมประชุม 21-26 เม.ย.
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกองทัพสหรัฐปฏิบัติการโจมตีทางทหารกับซีเรียว่า กระทรวงกลาโหมของไทยได้ติดตามดูสถานการณ์ โดยพล.อ.ประวิตร ตั้งเจ้าหน้าที่ชุดติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวในเรื่องความมั่นคงทั่วไป โดยทางเราก็มีข้อมูลของเราเอง รวมทั้งรับข้อมูลจากมิตรประเทศ เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าจะเกิดผลกระทบต่อคนไทยหรือไม่ พร้อมกับประเมินแนวโน้มของความรุนแรงเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นระยะ
ทั้งนี้ ในความรุนแรงขั้นต้นยังไม่มีรายงานว่าจะเกิดการปะทุรุนแรงมากขึ้น เพราะในซีเรียมีกองกำลังของทหารสหรัฐประมาณ 2,000-3,000 คน และคงใช้วิธีการโจมตีทางอากาศโดยทิ้งระเบิดไปใกล้กับจุดเก็บอาวุธเคมี ซึ่งที่มีความเป็นห่วงก็คือกรุงดามัสกัส ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียนั้น คิดว่ายังไม่มี แต่เราก็ไม่ประมาทและต้องเฝ้าระวัง เพราะทราบกันดีว่า ซีเรียได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย อีกทั้งจีนก็มีความใกล้ชิดกับรัสเซีย
อย่างไรก็ตามเราก็ต้องรอดูในเวทีสหประชาชาติ ว่าจะพูดคุยในเรื่องนี้อย่างไร ส่วนที่เป็นห่วงว่าอาจจะเกิดสงครามครั้งใหญ่หรือสงครามเย็นนั้น คิดว่าไม่น่าจะเป็นแบบนั้น แต่ในส่วนความตึงเครียดของสถานการณ์มีขึ้นแน่นอน แต่จะมีผลกระทบกับฝั่งยุโรปตะวันออกมากกว่าฝั่งเอเชียและไทย ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่เราก็ต้องดูให้ดี เพราะจุดยืนของไทยนั้นอยู่ตรงกลาง สำหรับการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐอเมริกาที่อาคารเพนตากอน โดยพล.อ.ประวิตร มีกำหนดการเดินทางไปร่วมประชุมระหว่างวันที่ 21-26 เม.ย.นั้น กำหนดการยังเป็นไปตามเดิม และยังไม่มีการยกเลิกมาที่กระทรวงกลาโหมไทย
