ยูทูบแชนแนลเวเชร์นีย์ ฮาร์คอฟ ของยูเครนผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุมหนึ่งจากฝั่งทางเท้าไม่ไกลจากที่เกิดเหตุรถเก๋งยี่ห้อเล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 350 ฝ่าไฟแดง และชนกับรถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก ที่วิ่งมาอีกทางหนึ่งกลางสี่แยก ก่อนจะปลิวไถลไปชนคนรอข้ามถนนเสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 6 คน ที่เมืองฮาร์คลอฟ ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อค่ำวันที่ 18 ต.ค. โดยหนุ่มสาวคู่หนึ่งรอดตายอย่างหวุดหวิด หลังเดินออกมาห่างจากที่รถเก๋งเล็กซัสไถลพุ่งชนคนไม่กี่วินาทีเท่านั้น

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ศาลแขวงเคียฟสกี เมืองฮาร์คอฟ ทางตะวันออกของยูเครน ศาลพิจารณาใช้มาตรการเชิงป้องกัน (Preventive Measure) สั่งคุมขัง น.ส.อัลโยนา ไซต์เซฟ อายุ 20 ปี ในเรือนจำเป็นเวลา 60 วัน (นับตั้งแต่ 18 ต.ค.-16 ธ.ค. 2560) ซึ่งเป็นโทษสูงสุด พร้อมคัดค้านการประกันตัว ระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด

อัยการฝ่ายโจทก์พอใจกับคำตัดสิน แต่ทนายฝ่ายจำเลยไม่พอใจ และจะยื่นลดโทษให้เป็นถูกกักบริเวณภายในบ้าน โดยอ้างว่ายังขาดหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นว่า น.ส.อัลโยนามีความผิดจริง อีกทั้งจำเลยมีสุขภาพย่ำแย่ อย่างไรก็ตาม ทนายฝ่ายจำเลยยังไม่ตัดสินใจว่าจะยื่นอุทธรณ์เพื่อสู้คดีหรือไม่ จะต้องปรึกษาหารือกับลูกความก่อน

น.ส.อัลโยนา ไซต์เซฟ

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า น.ส.อัลโยนาเป็นบุตรสาวบุญธรรมของนายวาซีลีย์ ไซต์เซฟ นักธุรกิจเศรษฐีของเมือง เป็นประธานบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรป่าไม้ และบริษัทวิศวกรรมพลังงาน สังคมโซเชี่ยลมีเดียจึงมีปฏิกิริยาไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากไม่เชื่อว่าการสอบสวน น.ส.อัลโยนาจะเป็นไปอย่างโปร่งใส อำนาจเงินสามารถทำให้เธอไม่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง พร้องตั้งข้อสงสัยว่า น.ส.อัลโยนาอาจเมาแล้วขับด้วย

นายวาซีลีย์ ไซต์เซฟ

นายวิตา ดูโบวิก โฆษกอัยการท้องที่ ระบุว่า จะดำเนินการจับกุม น.ส.อัลโยนาในฐานะผู้ต้องสงสัยก่ออุบัติเหตุบนท้องถนน เนื่องจาก 1.เป็นคดีที่สะเทือนสังคมในเมืองฮาร์คอฟ 2.จำนวนผู้เสียชีวิตที่มีถึง 5 ราย และ 3.ครอบครัวมีช่องทางหลบหนีออกนอกประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน