กรุงโซลลุยฟ้อง “โบสถ์ซารังเจอิล” เรียก “ร้อยล้าน” ต้นตอแพร่โควิดระลอกใหม่
กรุงโซลลุยฟ้อง “โบสถ์ซารังเจอิล” – วันที่ 18 ก.ย. รอยเตอร์และ สเตรตส์ไทมส์ รายงานว่า รัฐบาลนครพิเศษกรุงโซล ของเกาหลีใต้ แถลงว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหาย 4,600 ล้านวอน หรือราว 123 ล้านบาท กับ โบสถ์ซารังเจอิล และ บาทหลวงช็อน ควังฮุน ผู้นำโบสถ์ซารังเจอิล และแหน่งประธานสภาคริสเตียนเกาหลี ฐานขัดขวางความพยายามของหน่วยงานทางการในการติดตามและตรวจหาเชื้อโควิด-19
ภายหลังมีการแพร่กระจายไวรัสมรณะในกลุ่มสมาชิกโบสถ์ซารังเจอิล จนกลายเป็นต้อตอก่อคลัสเตอร์หรือการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ครั้งใหม่ และนำไปสู่การระบาดลอกสองของประเทศ เมื่อกลางเดือนส.ค.ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ส่วนหนึ่งระบุว่า โบสถ์ซารังเจอิลและบาทหลวงช็อน ควังฮุน จำเป็นต้องรับผิดชอบเพราะมีส่วนทำให้โรคโควิด-19 กลับมาระบาดทั่วประเทศอีกครั้ง จากการปฏิเสธ รวมทั้งขัดขวางการสำรวจทางระบาดวิทยา หรือช่วยเหลือและสนับสนุนพฤติกรรมดังกล่าว เช่นเดียวกับการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ
โดยคลัสเตอร์โบสถ์ซารังเจอิลมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 1,162 คน และส่งผลกระทบทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณกว่า 13,100 ล้านวอน (ราว 350 ล้านบาท) ในจำนวนรวมถึงงบประมาณของทางการกรุงโซล 4,600 ล้านวอนที่ฟ้องร้องเรียกคืน
นอกจากนี้ยังมีองค์การบริการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเกาหลีใต้ระบุว่าเตรียมฟ้องร้องโบสถ์ซารังเจอิล และเรียกค่าเสียหายสูงกว่า 5,500 ล้านวอน (ราว 147 ล้านบาท) ด้วย
สำหรับจุดเริ่มต้นของคลัสเตอร์โบสถ์ซารังเจอิลนั้น เกิดขึ้นหลังจากบาทหลวงช็อน ควังฮุน และสมาชิกโบสถ์จำนวนมาก ละเมิดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เข้าร่วมเดินขบวนประท้วงรัฐบาลเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ซึ่งตรงกับวันชาติของเกาหลีใต้ และไม่นานก็พบว่าสมาชิกหลายคนมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวก
ทั้งยังแพร่กระจายออกนอกกลุ่มสมาชิก มีคนติดเชื้อที่เชื่อมโยงกลับมายังโบสถ์ซารังเจอิลในหลายสถานในหลายเมือง ครอบคลุมตลาด และศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายบริหารโบสถ์ซารังเจอิลแถลงแสดงความไม่พอใจ พร้อมระบุว่าจะฟ้องร้องรัฐบาลกรุงโซลฐานบังคับตรวจหาเชื้อ และส่งตำรวจเข้าบุกค้นโบสถ์ แต่ไม่มีรายงานว่าได้ดำเนินการตามที่แถลงหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: