กลุ่มพนักงาน คริสตัล-เอมเมอรัลด์ ทองหล่อ ยันติดเชื้อจากกลุ่มลูกค้าไฮโซ ตั้งแต่ปลาย มี.ค. ทำลูกตัวเองติดไปด้วย แต่ปกปิดไทม์ไลน์ กลัวภรรยารู้ว่ามาเที่ยว

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 เม.ย. 2564 กลุ่มพนักงานร้านคริสตัลคลับ ทองหล่อ และเอมเมอรัลด์ ทองหล่อ ที่ใกล้ชิดกับทางผู้บริหารร้าน มีการให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์กับทางข่าวสดเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดโรคการแพร่โควิดว่า จุดเริ่มต้นตามไทม์ไลน์ที่กรมควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขได้ทำการตรวจสอบร่วมกับทางสำนักงานเขตวัฒนามีการตรวจสอบพบว่า มีกลุ่มลูกค้าไฮโซจำนวน 5-6 คน รวมเพื่อนอีก 3-4 คน มาใช้บริการโดยมีพนักงานที่มาดูแลประมาณ 17 คน ติดโควิด 10 คน เมื่อวันที่ 25 มี.ค. โดยเข้ามาดูคอนเสิร์ต พอคอนเสิร์ตจบได้ย้ายขึ้นห้องวี 3 (ชั้น 2)

หลังจากนั้นสำนักงานเขตวัฒนาแจ้งว่ามีผู้ป่วยโควิดยืนยันว่ามาใช้บริการคริสตัลเมื่อวันดังกล่าว ทางผู้บริหารจึงสั่งปิดร้านหลังจากทราบข่าวทันที และมีการยกเลิกการเล่นคอนเสิร์ตของเสก โลโซ วันที่ 31 มี.ค. ตั้งแต่เวลา 15.00 น. แต่ระหว่างวันที่ 25 มี.ค. ทางพนักงานที่ทำงานได้รับเชื้อมาจากลูกค้าแต่ไม่มีใครรู้ตัว และยังคงทำงานต่อเรื่อยๆ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสอบถามกรมควบคุมโรคและสำนักงานเขตวัฒนาได้เนื่องจากเป็นกรณีข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

เมื่อร้านทราบข่าวจากสำนักงานเขตวัฒนาก็ประกาศแจ้งพนักงานเพื่อกักตัวและสังเกตอาการแต่ไม่ทัน เนื่องจากเชื้อกระจายไปเป็นวงกว้างแล้ว ซึ่งทางผู้บริหารสถานบันเทิงกล่าวยืนยันว่า สาเหตุการแพร่ระบาดในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากพนักงานภายในร้าน แต่เกิดจากลูกค้ากลุ่มดังกล่าวที่มาใช้บริการ ซึ่งการแพร่ระบาดเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ขนาดพนักงานที่มีอายุประมาณ 50 ปี ไม่ดื่มเหล้า ไม่ชอบเสียงดัง แค่เดินผ่านเท่านั้นกลับติดเชื้อโรคดังกล่าว

โดยหนึ่งในกลุ่มที่มาเที่ยวนั้นมีความเกี่ยวพันเป็นตระกูลของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งในประเทศไทยรวมถึงรุ่นน้อง​ มีหนึ่งในกลุ่มนี้ไปเที่ยว​หลายที่ ทั้งไปงานมอเตอร์โชว์ ไม่ใส่หน้ากากอนามัย นั่งลองรถ​ จับพวงมาลัย​ อยู่บูธ​หรูของรถยี่ห้อดัง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. รวมถึงทำให้ลูกที่เรียนโรงเรียนชื่อดังในกรุงเทพฯ ต้องติดเชื้อไปด้วย จนทางโรงเรียนต้องประกาศว่ามีผู้ปกครองติดโควิดแต่ปกปิดบนไทม์ไลน์ เนื่องจากกลัวภรรยาทราบว่าไปเที่ยวเลานจ์

ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงถึงทางนายอ๊อด ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารนั้น ทางกลุ่มพนักงานที่ให้ข้อมูลยืนยันว่า นายอ๊อดรู้สึกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก แต่จะไม่ขอให้สัมภาษณ์กับทางสื่อมวลชนแม้ว่าจะอดีตนักการเมืองชื่อดังพูดพาดพิง นำหลักฐานที่เป็นคลิปวีดีโอเก่ามาเปิดเผย และนำหลักฐานที่ผิดพลาดมานำเสนอ

นอกจากนี้ ยังมีการนำภาพใบหน้านายอ๊อดมาเปิดเผย และกล่าวอ้างถึงกลุ่มทุนจากยากูซ่าซึ่งไม่เป็นความจริง แต่นายอ๊อดและกลุ่มผู้บริหารไม่ต้องการที่จะมีความขัดแย้งกับใครจึงขอเลือกที่จะอยู่เฉยๆ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์แพร่ระบาดโควิดทำให้เกิดความเสียหาย ทางร้านทั้ง 2 แห่งยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบเป็นอย่างดี ส่วนกรณีเรื่องการขอใบอนุญาตนั้น ทางผู้บริหารไม่ขอเปิดเผย ขอให้เป็นของทางกฎหมายดำเนินการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน