แฉ ‘บรรยิน’ แต่งชุด ตร.หลอกเหยื่อ ดีเอ็นเอยันชัด พี่ชายผู้พิพากษา จ่อแจ้งเพิ่มทีมฆ่า4ข้อหา
พี่ชายผู้พิพากษา จากกรณี ตำรวจจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ และ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ หลายสมัย พร้อมพวกรวม 6 คน ในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ก่อนที่จะพบกระดูกถูกเผาไฟ แล้วนำมาตวรจดีเอ็นเอ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 27 ก.พ. ที่กองปราบปราม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก., พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผบก.ป. เรียกประชุมชุดทำงานสืบสวนสอบสวน กองปราบปราม และ บก.สส.บช.น. เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยใช้เวลาประชุมนานร่วม 2 ชั่วโมง
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า สำหรับคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ตอนนี้ความคืบหน้าไปแล้ว 70 เปอร์เซ็น แต่ผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของชิ้นส่วนกระดูกกับกะโหลกศีรษะมนุษย์ที่พบในที่รกร้างแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ ยังไม่มีรายงานออกมาอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้มีรายงานที่ประชุมว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้เน้นให้ชุดทำงานเร่งพิสูจน์ทราบหาพยานแวดล้อม และยืนยันตัวบุคคลจากภาพวงจรปิดที่มีภาพของกลุ่มคนร้าย พร้อมกับให้ทีมสอบสวนทำสำนวนให้รัดกุม โดยขณะนี้มีการสอบปากคำพยานในคดีไปแล้วกว่า 40 ปาก คาดว่าเหลืออีกประมาณ 20 ปากก็น่ารวบรวมสำนวนส่งฟ้องได้ พร้อมกันนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการประสานเพื่อขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อตรวจสอบหาเงิน 2 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินค่าจ้างก่อเหตุ หลังหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า พ.ต.ท.บรรยิน ได้มีการมอบเงิน 2 แสนบาทให้กับ สจ.คนหนึ่ง ก่อนที่จะแบ่งให้ผู้ต้องหา 2 คน คนละ 5 หมื่นบาท
สำหรับผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะที่พบ และคราบเลือดบนรถโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ ที่ใช้เป็นเป็นพาหนะก่อเหตุ มีผลตรวจอย่างไม่เป็นทางการออกมาแล้วว่า เป็นของพี่ชายผู้พิพากษา ซึ่งผลตรวจอย่างเป็นทางการน่าจะออกมาในสัปดาห์หน้า จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะมีการแจ้งข้อหากล่าวหาต่อผู้ต้องหาทั้ง 6 เพิ่ม อีก 4 ข้อหา ประกอบไปด้วย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเสี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย, ซ่อนเร้นอำพรางศพ และเรียกค่าไถ่ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
นอกจากนี้ในส่วนของ พ.ต.ท.บรรยิน ก็จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 1 คดีคือ “แต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจ และกระทำการใดๆ อันทำให้ ราชการตำรวจถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ราชการตำรวจ หรือทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าตนเป็นตำรวจ, แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน และแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ เนื่องจากวันเกิดเหตุอุ้มพี่ชายผู้พิพากษา พ.ต.ท.บรรยิน ได้ใส่เครื่องแบบ ก่อนที่จะออกอุบายเข้าไปแสดงตัวกับพี่ชายผู้พิพากษา เพื่อขอตรวจสอบบัตรประชาชนและเชิญตัวพาขึ้นรถไปอีกด้วย
