จับโจงปล้นแบงก์หาเงินใช้หนี้นับล้าน

โจรปล้นแบงก์ จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยว ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ใช้ปืนเข้าไปข่มขู่พนักงานในธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัสราชบุรี ถนนคฑาธร ในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี ได้เงินสดไปหลายแสนบาท แล้วขี่รถจยย.หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว กระทั่งทราบว่าคนร้ายคือ นายเนตร กฤตเมธาวี อายุ 51 ปี จึงนำกำลังไปจับกุม

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 31 มี.ค. พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.ภ.7 นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และ พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พร้อมกำลัง นำตัว นายเนตร มาแถลงข่าวพร้อมของกลางอาวุธปืน สั้น บีบีกัน 1 กระบอก เงินสดที่เหลือกว่า 4 แสนบาท เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ รถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน ขลจ-809 ราชบุรี และรถกระบะอีซูซุ สีน้ำตาล ตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน บน-6534 ยโสธร

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พล.ต.ต.สรายุทธ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว เนื่องจากมีปัญหาเรื่องหนี้สินจำนวนมาก โดยในวันเกิดเหตุได้เดินเข้าไปในห้างโลตัส และเห็นว่ามีธนาคารกรุงเทพ เปิดอยู่เพียงธนาคารเดียว และไม่ค่อยมีลูกค้า จึงเดินเลยเข้าไปซื้อปืน บีบีกัน ที่ขายอยู่ภายในห้าง ก่อนจะกลับมาก่อเหตุ บังคับให้เจ้าหน้าที่ธนาคารหยิบเงินใส่ถุงผ้าให้ จากนั้นก็เดินออกมาจากห้างแล้ว ขี่รถจยย.กลับไปบ้านแม่ที่ ต.อ่างทอง อ.เมืองราชบุรี และนำเงินไปเก็บไว้ในรถกระบะ ส่วนเงินที่ได้นั้นมีทั้งหมด 667,420 บาท และได้นำเงินบางส่วนไปใช้หนี้แล้ว เหลือเงินที่ยึดคืนมาได้เพียงแค่ 4 แสนกว่าบาท จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ติดตามมาจับกุมได้ที่บ้านพักดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายเนตร ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเริ่มจาก นายเนตร ขี่รถจยย.เข้ามาจอดบริเวณประตูด้านข้างของห้างโลตัส และเดินเข้ามาทางประตูด้านข้าง ก่อนเดินตรงเข้าไปยังร้านขายของเล่นที่อยู่ตรงโซนร้านอาหารเพื่อซื้อปืนปลอม 1 กระบอก จากนั้นนำปืนพกใส่เอวเดินมุ่งหน้าเข้ามาในธนาคารกรุงเทพ ซึ่งอยู่ในห้างโลตัส ต่อมาจึงเดินเข้าไปกดบัตรคิว เมื่อเห็นว่าไม่ค่อยมีคนก็เดินเข้าไปบริเวณประตูข้างเคาน์เตอร์ของธนาคาร แล้วเปิดเสื้อโชว์ปืนที่พกในเอวบอกให้พนักงานหยิบเงินใส่ถุงผ้าที่เตรียมไว้ ก่อนหลบหนี

อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ตัดสินใจทำลงไปเพราะต้องการเงินมาใช้จ่าย เนื่องจากถูกผลกระทบจากเศรษฐกิจ และโรคโควิด ทำให้มีหนี้สินจำนวนนับล้านบาท ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและนำตัวดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน