ตำรวจไซเบอร์ บุกรวบ อดีตสถาปนิก สมาชิกกลุ่มวาร์ปคลับ ใช้นามแฝงปล่อยภาพลับสาว แลกค่าโฆษณารายเดือน ตรวจค้นเจออีก 10,000 ไฟล์

วันที่ 20 มิ.ย.2564 พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) สั่งการให้ พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผบก.สอท.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.คัมภีร์ พรหมสนธิ ผกก.2 บก.สอท.1, พ.ต.ท.อรุณ พร้อมพันธุ์, พ.ต.ท.ชนทัช วุฒิภัทรโสภณ รอง ผกก.2 บก.สอท.1, พ.ต.ท.อคร กล่อมกูล และ พ.ต.ต.วินัย ชมพุฒ สว.กก.2 นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น กก.2 บก.สอท.1

เข้าทำการควบคุมตัว นายเจษฎา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี หลังขออนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ค.58/2564 ลงวันที่ 17 มิ.ย.2564 หลังเข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์พีซี 1 ชุด, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง และ ฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูล 2 เครื่อง โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ตำรวจไซเบอร์ บุกรวบ อดีตสถาปนิก สมาชิกกลุ่มวาร์ปคลับ ใช้นามแฝงปล่อยภาพลับสาว แลกค่าโฆษณา

ตำรวจไซเบอร์ บุกรวบ อดีตสถาปนิก สมาชิกกลุ่มวาร์ปคลับ ใช้นามแฝงปล่อยภาพลับสาว แลกค่าโฆษณา

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น ได้รับแจ้งจากหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้เสียหายว่า มีบุคคลซึ่งใช้ชื่อบัญชีว่า “Kyurego” ได้นำภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวของตนเอง ซึ่งมีลักษณะลามกอนาจาร นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เผยแพร่บนเว็บไซต์หนึ่งที่เกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร ทำให้ตนเองเสียหาย จึงเดินทางมายัง บก.สอท.1 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยทำการสืบสวนหาตัวคนที่ใช้บัญชีนามแฝงดังกล่าว

จากการสืบสวนพบว่า นายเจษฎา คือผู้ใช้นามแฝง Kyurego จึงทำการขอหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านแห่งหนึ่ง อ.พนมสารคาม ซึ่งเป็นบ้านที่นายเจษฎาพักอาศัยอยู่ ก่อนควบคุมตัวเพื่อสอบสวน จากการตรวจค้นบ้านพบพยานหลักฐานว่า นายเจษฎา เป็นเจ้าของหรือผู้ใช้บัญชี Kyurego จริง และมีการโพสต์รูปและคลิปลามกอนาจารของบุคคลอื่นมากกว่า 500 ราย รวมถึงมีคลิปลามกอนาจารเก็บไว้ครอบครองมากกว่า 10,000 ไฟล์

จากการสอบสวนนายเจษฎา ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้บัญชีดังกล่าวจริง และได้โพสต์รูปและคลิปของผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2563 จริง โดยนำภาพของผู้เสียหายมาจากเว็ปไซต์ “กลุ่มดูให้ตาแฉะ” และนำไปโพสต์เพื่อหารายได้จากการให้คนคลิ๊กเพื่อเข้าไปดูโฆษณา โดยมีรายได้จากการกระทำดังกล่าวเดือนละประมาณ 3,000 บาท ส่วนตัวผู้ต้องหาอ้างว่าทำงานเป็นอดีตสถาปนิกเขียนแบบแต่เลิกทำไปนานแล้ว

จากการตรวจเพิ่มพบว่า เคยเรียนอาชีวะแห่งหนึ่ง วุฒิการศึกษา ปวส. มีความรู้ในการเข้าเว็บไซต์เพื่อหารายได้จากการโฆษณาในเว็บต่างประเทศ โดยการนำภาพผู้เสียจากกลุ่มรวมภาพอนาจารมาใส่ไว้ในเว็บไซต์ที่ให้กดคลิกลิ้งค์โฆษณาเพื่อให้ได้เงินมา เปิดเข้าไปดูวาร์ปคลิกแต่ต้องผ่านโฆษาณาก่อน โดย 1,000 คลิกโฆษณาจะได้เงิน 1 ยูเอสดอลล่า หรือประมาณ 31 บาท นายเจษฎาทำได้ 6-7 เดือนรายได้รวม 20,000 กว่าบาท จนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” นำตัวผู้ต้องหาและของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดี และเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นได้ส่งเรื่องให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการปิดกั้นและการเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน