รวบคาปั๊ม หนุ่มขับมินิคูเปอร์ สวมทะเบียน รับซื้อจาก เพจขายรถหลุดจำนำ ตรวจสอบพบรุ่นเดียว สีเดียว มีถึง 3 คัน แต่คนละจังหวัด

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2564 ภายใต้การอํานวยการของพล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ชัยต์พจน์ สูวรรณรักษ์ รองผบช.ภ.2/ผอ.ศปอส.ภ.2 พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบช.ภ.2 /หน.ศปจร. ตร.ชุด3 โดยพล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ที่สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ กลุ่มงานสนับสนุน บก.ปอท.

ออกสืบสวนหาข่าวกลุ่มซื้อขายรถหลุดจำนำผ่านทางสื่อโซเซียล เพจเฟซบุ๊ก”รถหลุดจำนำ หลักหมื่น” ที่ประกาศซื้อขายรถยนต์หรูในราคาถูก น่าจะมีพฤติการณ์เข้าข่ายเกี่ยวกับการกระทำผิดกฏหมาย โดยเฉพาะในพื้นที่ จังหวัดสระแก้ว

กระทั่งเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ยี่ห้อ MINI รุ่น MINI COOPER RHD สีขาวคาดแดง ติดหมายเลขทะเบียน 1กฌ 3332 กทม. ที่ประกาศขายอยู่ในเพจเฟซบุ๊กดังกล่าววิ่งอยู่บนถนนธนะวิถี มุ่งหน้าอำเภอโคกสูง จึงติดตามสะกดรอยจนรถคันดังกล่าวเลี้ยว เข้ามาบริเวณจุดเติมลมในปั๊มน้ำมัน ปตท.ไร่เพชรรัตน์ ถ.ธนะวิถี ต.หนองสังข์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

จนท.จึงตามประกบ พบตัว นายธนธรณ์ อายุ 39 ปี ชาว ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นคนขับรถจึงแสดงตัวขอตรวจสอบเอกสารทั้งหมด แต่เจ้าตัวไม่สามารถ นำเอกสารการครอบครองรถมาแสดงได้ และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นแผ่นป้ายทะเบียนปลอม โดยแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี ก็ปลอมด้วย จึงได้แจ้งข้อหา ปลอมหรือใช้เอกสารราชการปลอม

จากการสอบสวนนายธนธรณ์ รับสารภาพว่าชื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจากกลุ่มชื้อ ขายรถยนต์หลุดจํานําในเฟซบุ๊กชื่อ “รถหลุดจํานํา”โดยมีนายหน้าติดต่อมา 2คน ในราคา 290,000 บาท แต่จะจ่ายเป็น 2 งวด โอนให้ก่อน และเมื่อรับรถจะจ่ายเงินสดอีกครั้ง

ซึ่งมาพร้อมการติดป้ายทะเบียนปลอม และได้ทําป้ายแสดงการชําระภาษีประจําปี ปลอมกับกลุ่มไลน์ซื้อขายรถหลุดจำนำ ในราคา 2,500 บาท เพื่อที่จะนํามาใช้เและขายต่ออีกทอดหนึ่งเท่านั้น

จากการสืบสวนของจนท.ทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ แต่ก่อนประกอบอาชีพ ขายครีมและสินค้าทางออนไลน์ในพื้นที่ตลาดโรงกลือ แต่ภายหลังเศรษฐกิจไม่ดีในยุคโควิด จึงหันมาประกอบอาชีพเสริมเป็นนายหน้าขายรถหลุดจำนำและเข้ามาคลุกคลีในวงการค้ารถผิดกฏหมาย

ซึ่งจากการตรวจสอบทะเบียนดังกล่าว พบว่ามีผู้ใช้รถถึง 3 คันด้วยกัน แต่คนละพื้นที่เพื่อจะให้ยากจากการตรวจของ จนท. จากนั้นจึงได้นำรถของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี ตามกฏหมายและจะขยายผลถึงขบวนการสวมป้ายทะเบียนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน