สลดกลางลานจอดรถห้างดังหัวหิน สาวถูกยิงดับคารถ ผัวหนีหวังจบชีวิต ตำรวจรวบคา รพ. อ้างทะเลาะเรื่องปัญหาชีวิต ก่อนแย่งจนปืนลั่นใส่ศีรษะ
วันที่ 12 ก.ย.64 พ.ต.ท.กิตติ สังข์ทอง สารวัตร (สอบสวน) สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุหญิงถูกยิงเสียชีวิต ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดัง เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จึงรายงานให้ พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.หัวหิน ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.วิรัช ทองไทย นักวิทยาศาสตร์ (สบ 4) พฐ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทีมพิสูจน์หลักฐาน, แพทย์เวร รพ.หัวหิน, ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หัวหิน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในศูนย์การค้า บริเวณลานจอดรถ ชั้น 2 ½ พบรถเก๋งฮอนด้า สีขาว จอดอยู่ในช่องจอดรถ พบกระจกหน้าต่างประตูด้านหลังซ้ายแตกเป็นรูขนาดใหญ่ ตรวจสอบภายในรถที่เบาะนั่งด้านหลังพบศพ น.ส.จิรวดี อายุ 31 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ศีรษะทิ่มอยู่กับพื้นรถ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357 เข้าที่กกหูซ้าย กระสุนฝังใน 1 นัด และที่ใบหน้ามีร่อยรอยฟกช้ำ นอกจากนี้ยังพบรถเก๋งมาสด้า สีดำ ที่จอดอยู่ติดกัน ถูกกระสุนเจาะเข้าที่กระจกประตูด้านคนขับ แตกอีก 1 รูด้วย
จากนั้นชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในศูนย์การค้าฯ และบริเวณโดยรอบ กระทั่งทราบตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายนที อายุ 45 ปี สามีของผู้เสียชีวิต อาชีพส่งผักผลไม้ตามโรงแรม จึงได้ลงพื้นที่ติดตามและสามารถจับกุมตัวได้ที่ รพ.ใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ก่อนคุมตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.หัวหิน
จากการสอบสวน นายนที ให้การโดยอ้างว่า อยู่กินเป็นสามีภรรยากับ น.ส.จิรวดี มานานร่วมปี แต่ช่วงหลังมักมีปากเสียง ทะเลาะกันบ่อย จากเรื่องครอบครัวและเงินทองไม่พอใช้ ก่อนเกิดเหตุได้ชวนภรรยามาซื้อของกินภายในศูนย์การค้า แต่ขณะจอดรถกลับมีปากเสียงกับภรรยาอีกครั้ง ตนรู้สึกโกรธอย่างมาก จึงหยิบอาวุธปืนที่สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตในราคา 3 หมื่นบาทออกมา ขณะที่ภรรยากำลังหยิบของที่เบาะด้านหลังแต่พบเห็นปืนจึงยื้อแย่งกัน ปืนได้ลั่นเข้าศีรษะภรรยา 1 นัด ล้มคว่ำเสียชีวิตในรถทันที และกระสุนไปถูกกระจกรถเก๋งที่จอดติดกัน
หลังจากนั้นตนจึงรีบไปขึ้นวินจยย.หนีกลับบ้านพัก ตั้งใจจะกินยาฆ่าตัวตาย แต่พี่ชายเห็นเข้าจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลช่วยชีวิตได้ทัน และถูกจับกุมตัวในที่สุด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุของการก่อเหตุสลดในครั้งนี้ ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
