ที่แท้ ส.ท.รุ่นพี่! รัว 16 นัด ดับส.ต.คาป้อม วงจรปิดจับภาพขี่จยย.หนีอย่างใจเย็น ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยมีปากเสียงกัน เผยอีก 13 นาทีก็จะออกเวร แต่มาจบชีวิตก่อน
กรณี ส.ต.วัชระ อินาลา อายุ 29 ปี พลสารวัตรทหาร มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง ถูกคนร้ายจ่อยิงกว่า 10 นัด เสียชีวิตคาป้อมยาม ขณะเข้าเวรปากทางเข้า-ออก หลังคนร้ายก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ขณะที่ ตร.เร่งระดมตามล่า เหตุเกิดเวลา 17.47 น.วันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว อุกอาจ! คนร้ายซิ่งจยย. บุกรัว 10 นัด ดับ สห. คาป้อมหน้าค่ายพระยอดเมืองขวาง
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 19 ส.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพวงจรปิดที่หน้าประตูทางเข้า-ออกค่าย พบรูปพรรณสัณฐานและรถจยย.ของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 สีน้ำเงินดำ สวมหมวกกันน็อกสีแดง แบบครึ่งใบ ไม่สวมแมสก์ สวมเสื้อผ้าสีดำ
สอบถามแม่ค้ารายหนึ่ง ระบุว่า ตั้งแผงลอยขายของใกล้ทางเข้า-ออก ได้ยินเสียงปืนดังรัวขึ้นหลายนัด ทีแรกคิดว่าทหารจุดประทัด พบเห็นทหารที่เขาเวรยามวิ่งหน้าตื่นมาทางที่แผงของตน ทหารวิ่งเข้าไปหลบในร้านอาหารที่อยู่ใกล้ จังหวะนั้นเห็นคนร้ายขี่จยย.ที่ใช้ก่อเหตุคันดังกล่าว ขี่หนีมุ่งหน้าตัวเมืองนครพนม อย่างใจเย็นโดยไม่เร่งรีบแต่อย่างใด
ก่อนเกิดเหตุคนร้ายจะยิงส.ต.วัชระ ยังทราบว่าผู้ตายมาเข้าเวรที่ป้อมยามที่เกิดเหตุเวลา 15.00 น. และเตรียมกำลังจะออกเวรในเวลา 18.00 น. ซึ่งเกิดเหตุในเวลา 17.47 น. เหลือเวลาอีกแค่ 13 นาทีเท่านั้น ก็ผลัดเปลี่ยนเวรให้ สห.คนอื่นแล้ว กระทั่งมาเกิดเหตุสลดเสียก่อน
ส.ต.วัชระ อินาลา อายุ 29 ปี
จากการสืบสวนทราบว่า มือปืนรายนี้ทราบต่อมาว่าคือ ส.ท.มานิตย์ อายุ 29 ปี เป็นเพื่อนทหารร่วมค่าย มีบ้านพักอยู่ภายในค่ายแห่งนี้ ซึ่งขี่จยย.คันที่ใช้ก่อเหตุ ออกจากบ้านพักแล้วมาจอดหน้าป้อมยามขณะที่ ส.ต.วัชระ กำลังปฏิบัติหน้าที่
จากนั้น ส.ท.มานิตย์ ชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. จ่อกระหน่ำยิงไม่ยั้ง กระสุนเจาะเข้าที่ศีรษะ 1 นัด และตามร่างกาย 11 นัด รวม 12 นัด อีก 4 นัด พลาดถูกกระจกและผนังป้อมยาม ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนรวม 16 นัด จึงบันทึกและตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนสาเหตุคาดว่า ส.ท.มานิตย์ มือปืน และผู้ตายมีปากเสียงกันก่อนหน้านี้ เนื่องจากส.ต.วัชระเพิ่งย้ายมาประจำค่ายแห่งนี้ได้ประมาณ 2 ปีเศษ ส่วน ส.ท.มานิตย์ มือปืนเคยเป็นพลทหารอาสาที่มีฐานะยากจน ทางหน่วยจึงเปิดโอกาสให้สอบเข้าเป็นนายสิบ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของครอบครัว แต่กลับสร้างความเสื่อมเสียแก่หน่วยงาน
ส่วนนิสัยของ ส.ต.วัชระ ผู้ตาย อาจจะเป็นคนพูดจาโผงผางและก้าวร้าว แต่รักพวกพ้องและมีน้ำใจต่อทหารด้วยกัน ขณะที่ ส.ท.มานิตย์ ไม่ค่อยสุงสิงและพูดคุยกับใคร จึงอาจเป็นไปได้ว่า ผู้ตายไม่ค่อยจะเคารพรุ่นพี่ จึงเก็บความคับแค้นไว้ในใจ ก่อนจะตัดสินใจก่อเหตุยิงเพื่อนเสียชีวิตคาป้อมยามดังกล่าว
หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน บก.ภ.จว.นครพนม และสภ.เมืองนครพนม กว่า 30 นายลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณป้อมยามและปากทางเข้า-ออก และสอบพยาน จนได้ภาพคนร้ายที่ก่อเหตุ ก่อนจะกระจายกำลังเร่งออกติดตามตัว ส.ท.ปืนโหดรายนี้แล้ว เพื่อมาดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.สถาพร บุญชู ผบ.มทบ.ที่ 210 พร้อม พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม ประชุมร่วมกับชุดสืบสวนโดยได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดและพยานที่พบเห็นขณะก่อเหตุและหลังก่อเหตุ เพื่อใช้เป็นแนวทางและเบาะแสติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุอุกอาจครั้งนี้
สำหรับ ส.ท.มานิตย์ มือปืนที่ก่อเหตุ เป็นชาว อ.ปลาปาก จ.นครพนม คาดว่ายังหลบหนีในอยู่พื้นที่ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนและติดตาม พร้อมลงพื้นที่พูดคุยกับญาติ เพื่อให้เข้ามอบตัวโดยเร็ว ส่วนศพผู้ตายเจ้าหน้าที่ได้ส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต
