หนุ่มโอดคดีไม่คืบ พบพิรุธ หลังถูกไล่ยิงรถ เผยคู่กรณีก่อเหตุเพียบ ตำรวจอ้างมีผู้ใหญ่สั่งเคลียร์ ด้าน ผู้กํากับการ สน.บางเขน เร่งตรวจสอบอีกครั้ง

วันที่ 22 ก.ค. 67 ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด นายชณันวัชร์ อายุ 43 ปี ขับรถรับจ้างผ่านแอพ เดินทางมาขอความเป็นธรรมจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด

กรณีถูกคู่กรณีขับรถไล่ยิง หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตำรวจแจ้งว่าเป็นกระสุน .22 ต่อมาตำรวจโทรมาแจ้งให้เข้าไปเคลียร์กับผู้ต้องหา โดยตำรวจอ้างว่า “มีผู้ใหญ่สั่งให้มาเคลียร์ให้จบ” เมื่อตนเข้าไปพบตำรวจ เจอคู่กรณี โดยคู่กรณีเสนอเงินให้ 20,000 บาท แล้วจบเรื่อง

ผู้เสียหายจึงปฏิเสธ จากนั้นตำรวจแจ้งว่า ไม่เป็นไร แต่ปืนมันเป็นปืนบีบีกันนะ ไม่ใช่ปืนจริง แล้วก็นำปืนบีบีกันมาให้ผู้ต้องหาชี้แล้วก็ถ่ายรูป ผู้เสียหายจึงติดใจสงสัยในหลายประเด็น เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากหลังเกิดเหตุมีตำรวจรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหาก่อคดีเพียบ แต่มีคนช่วยเหลือคอยเคลียร์คดีให้ ย่ามใจก่อเหตุซ้ำๆตลอด ตัดสินใจมาร้องขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด เหตุเกิดพื้นที่ สน.บางเขน

นายชณันวัชร์ กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนขับรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน(ป้ายแดง) นนทบุรี ไปรับผู้โดยมาจากย่านลําลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อไปส่งแถวสุธิสาร โดยขับรถมาตามถนนพหลโยธินขาเข้าปกติ แต่จู่ ๆ รู้สึกผิดปกติบริเวณ ซอยพหลโยธิน 44

เนื่องจากมีรถเก๋งคันหนึ่งพยายามขับเร่งเครื่องตามรถของตนมา กระทั่งจังหวะที่กําลังจะขึ้นสะพานข้ามแยกเกษตรได้ยินเสียงลักษณะคล้ายปืนดังขึ้นจํานวน 3 ครั้ง รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก หันไปดูผู้โดยสารว่าเป็นอะไรหรือไม่ ก่อนจะรีบขับออกมาให้เร็วที่สุด

จากนั้นเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.พหลโยธิน โดยตํารวจตรวจสอบร่องรอยกระสุนที่รถ ระบุว่า น่าจะเป็นปืนขนาด .22 แต่เมื่อตรวจสอบวงจรปิดในรถพบว่าเหตุเกิดในพื้นที่ สน.บางเขน จึงแนะนําให้ไปแจ้งความที่ สน.บางเขน เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ตํารวจ สน.บางเขน บอกว่ารอยกระสุนน่าจะเป็นขนาด .22 เช่นกัน และติดต่อเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้เข้ามาตรวจสอบคราบเขม่าดินปืน แต่เนื่องจากติดวันหยุดยาว ตํารวจจึงให้จอดรถทิ้งไว้ก่อน

ต่อมาในช่วงเย็นวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตํารวจโทรมาแจ้งว่าสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว ให้เข้ามาพูดคุยโดยอ้างว่า “มีผู้ใหญ่อยากให้เคลียร์กันให้จบ” เมื่อมาถึง สน.บางเขน พบคู่กรณีนายภูริเดช อายุ 44 ปีเซลส์ขายรถศูนย์โตโยต้าแห่งหนึ่ง พร้อมของกลางอาวุธปืนบีบีกัน 1 กระบอก และรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีดำ ทะเบียนป้ายแดงกทม. มีการพูดคุยกัน

โดยผู้ต้องหาเสนอเงินให้จํานวน 20,000 บาท แต่ตนปฏิเสธ เพราะมองว่าหากวันนั้นมีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตใครจะรับผิดชอบ หลังจากนั้นตํารวจได้มาคุยกับตนอีกครั้ง บอกว่าหากไม่รับเงินก็จะไม่ได้อะไรเลย เพราะปืนที่ยิงเป็นปืนบีบีกันหรือปืนปลอม

ผู้ก่อเหตุนํามามอบให้ขณะเข้ามอบตัว ยิ่งทําให้รู้สึกตกใจเพราะตอนแรกบอกเป็นปืนขนาด .22 อีกทั้ง พฐ. ก็ยังไม่เข้าตรวจคราบเขม่าดินปืนและตํารวจก็ไม่ได้เข้าค้นบ้านของคู่กรณี รวมถึงมีตํารวจนายหนึ่งบอกว่าคู่กรณีของตนเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งแต่เรื่องเงียบมาโดยตลอด ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเดินทางมาร้องขอให้สายไหมต้องรอดช่วยเหลือ

นายเอกภพ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทําการประสาน ผู้กํากับการ สน.บางเขน แล้ว โดย ผกก. ระบุว่า แม้ผู้ต้องหาจะนําปืนปลอมมามอบให้ตํารวจ แต่ไม่ได้หมายความว่าตํารวจจะเชื่อว่าปืนกระบอกดังกล่าวเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุ ต้องรอเจ้าหน้าที่ พฐ. เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งทั้งตัวปืนและรอบกระสุนที่รถของผู้เสียหาย หากพบมีการกระทําความผิดจริงก็จะต้องดําเนินคดีตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน