จับบริษัทจัดหางาน นิวซีแลนด์-เกาหลีใต้ อ้างสวยหรู มีสิทธิ์รับวีซ่าถาวร เก็บค่าหัวแพง แต่ไปไม่ได้จริง

ปคม. บุกจับบริษัทจัดหางานส่งเหยื่อไปทำงานเกษตรที่นิวซีแลนด์-เกาหลีใต้ อ้างสวยหรู มีสิทธิ์รับวีซ่าถาวร เก็บค่าหัวแพงแต่ไปไม่ได้จริง

วันที่ 4 ธ.ค. 2567 ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. ร่วมกับ นายสนธยา กาลาศรี ผอ.กองทะเบียนจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน, นายจัสติน อัลเวส ที่ปรึกษาสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์, น.ส.คาริน มัลธัส ที่ปรึกษาตำรวจนิวซีแลนด์

ร่วมกันแถลงจับกุม นายอดิเรก อายุ 29 ปี น.ส.จรรยา อายุ 37 ปี น.ส.รจนา อายุ 41 ปี นายโอฬาร อายุ 43 ปี นายธนกฤต อายุ 64 ปี นายไฮไซ หรือคิม อายุ 41 ปี นางสุกัญญา อายุ 64 ปี และน.ส.สุภาภรณ์ อายุ 48 ปี

ทั้งหมดถูกจับตามหมายศาลอาญา ที่ 5791-98/2567 ลงวันที่ 29 พ.ย. 2567 ข้อหา“หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้โดยการหลอกลวงฯ , ฉ้อโกงโดยได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จฯ และร่วมกันฟอกเงิน”

พร้อมตรวจยึดของกลาง อาทิเช่น สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 17 เล่ม ธนบัตรสกุลเงินไทย และต่างชาติ 1 หมื่นบาท, โฉนดที่ดิน รถเก๋ง และจยย. BMW ,ทองคำน้ำหนัก 10 บาท ,เอกสารการขอสมัครงาน และขอวีซ่าไปทำงานที่ประเทศนิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้จำนวนหลายร้อยชุด

พล.ต.ต.ศารุติ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน ร้องเรียนให้ตรวจสอบบริษัทของกลุ่มผู้ต้องหาคือ บริษัท กงจู วีซ่า เซอร์วิส จำกัด หลังมีผู้เสียหาย 13 รายเข้าร้องทุกข์ว่ามีผู้ฝ่าฝืน พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน

จากการสืบสวนจนเชื่อว่า ผู้ต้องหากระทำการเป็นขบวนการหลอกลวง โดยวางแผนแบ่งหน้าที่กันเรื่อยมา มีทั้งทำหน้าที่จดทะเบียนบริษัทจัดหาแรงงานไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนผู้ต้องหาอีกกลุ่มจะคอยหว่านล้อมและหลอกลวงเหยื่อว่าสามารถยื่นขอวีซ่าและจัดหางานที่ประเทศนิวซีแลนด์ให้ได้

เพราะได้รับสิทธิ (โควต้า) จากนายจ้างที่ประเทศนิวซีแลนด์ ให้หาคนไปทำงานประเภทงานเกษตร งานโรงงานขนมปัง พร้อมสร้างความน่าเชื่อถือโดยการหลอกลวงนำภาพถ่ายของผู้ที่ได้ไปทำงานจริงมาแสดง ทั้งที่นายจ้างและงานทั้งหมดนั้นไม่มีอยู่จริง

พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเอกสารยังพบเอกสารที่ไม่ตรงกับความจริงเช่น มีการหลอกลวงผู้เสียหายว่าได้รับวีซ่าประเภทถาวร และมีการเรียกเก็บค่าบริการเกินราคามาตรฐานทั่วไป ถึงรายละ 2.5 แสนบาท

โดยไม่ได้มีเจตนาจะจัดหางานให้ผู้เสียหายทั้งหมดไปทำงานได้จริง และยังพบอีกว่ามีการหลอกลวงโดยใช้แผนพฤติกรรมรูปแบบเดิม สร้างความเสียหายต่อผู้ที่ต้องการเดินทางทำงานยังต่างประเทศมีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก จึงวางแผนเข้าจับกุมต้องหาทั้ง 8 ราย ได้ที่บ้านพักในจ.ปทุมธานี, สมุทรสาคร และกทม. ดังกล่าว

ขณะเดียวกันยังพบข้อมูลด้วยว่าบริษัทดังกล่าวได้แอบอ้างเป็นตัวแทนจัดหาแรงงานไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้ โดยพบเอกสารของผู้เสียหายที่จ.มุกดาหาร กว่า 450 ราย ซึ่งเหยื่อจะต้องชำระเงินในขั้นแรก 5,000 บาท และเสียเงินอีกประมาณ 30,000 – 50,000 บาท โดยอ้างว่าจะได้ค่าตอบแทนถึงหลักแสนบาทต่อเดือน

จากการสอบสวน กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การปฏิเสธ พร้อมยืนยันว่าสามารถดำเนินการจัดหางานให้กลุ่มแรงงานได้จริง แต่ขณะนี้ติดขัดอยู่ที่ขั้นตอนการยื่นวีซ่า จึงทำให้กระบวนการล่าช้า จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป