ตำรวจแจงปม วิสามัญหนุ่มลักรถจยย. ยันทำตามยุทธวิธี มีวงจรปิดยืนยัน เร่งล่าตัวอีก 1 คนที่หลบหนี เผยแยกสำนวนเป็น 4 คดี

จากกรณี ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม นายศุภัช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี เหตุเกิดหน้าทางเข้าหมู่บ้านประยูรทอง 2 ซอยวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุลักรถจยย. ก่อนพยายามจะยิงต่อสู้ตำรวจ ส่วนคนร้ายอีกคนหลบหนีไปได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 11 ก.พ.68 ที่ห้องประชุม สน.บางเขน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รรท.ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบกน.2, พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว, พ.ต.อ.อนันต์ วสาตร์ ผกก.สน.บางเขน, พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2, พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่สืบสวนนครบาล, ฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว, สน.บางเขน และคณะพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าคดี

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า คดีนี้เริ่มต้นมาจากมีการโจรกรรมรถจยย.ในพื้นที่ สน.คันนายาว 4-5 ครั้ง จึงได้สืบสวนสอบสวน จนพบว่าคนร้าย 2 คนแต่งกายด้วยชุดในวันก่อเหตุวันนี้ และเมื่อวันที่ 3 ก.พ. คนร้าย 2 คนนี้จะไปก่อเหตุลักรถจยย. 1 คันที่ซอยคู้บอน 13 และเอามาจอดใต้ทางพิเศษฉลองรัช ในเวลา 06.00 น. ก่อนเอารถออกไปในเวลา 10.00 น. ของวันเดียวกัน

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ก.พ. คนร้ายทั้ง 2 คนได้มาก่อเหตุลักรถจยย.ในซอยนวลจันทร์ 52 เป็นพื้นที่ของ สน.โคกคราม ฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว จึงมาดักซุ่มรอในที่จุดเกิดเหตุ เพราะคาดว่าคนร้ายจะเอารถมาจอดที่นี่ กระทั่งถึงเวลาคนร้ายได้เข้ามาเอารถจยย. ฝ่ายสืบสวนที่ซุ่มสังเกตการณ์อยู่ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม นายศุภัช แต่คนร้ายอีกคนได้ใช้อาวุธปืนหันมาทางตำรวจ บังคับให้ปล่อยตัว นายศุภัช ก่อนจะขึ้นรถจยย.เพื่อจะขี่หลบหนี

จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ลักษณะเป็นการยิงต่อสู้กัน ทำให้ นายศุภัช ที่ซ้อนท้ายเสียชีวิต ส่วนคนร้ายอีกคนขี่รถจยย.หลบหนีไปได้ จากภาพวงจรปิดพบสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวสีดำ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ ใช้รถจยย.ยามาฮ่า เอ็กซ์แม็ก สีดำ ไม่ทราบป้ายทะเบียน จากแนวทางการสืบสวนพบว่ายังอยู่ในพื้นที่นครบาล

สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้นั้นเป็นไปตามยุทธวิธีและขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพจากวงจรปิดปรากฏให้เห็นแล้วว่าคนร้ายพยายามที่จะทำร้ายตำรวจก่อน ตำรวจจึงต้องยิงเพื่อป้องกันตัว ซึ่งเรื่องนี้ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ไปชี้แจงกับญาติคนร้ายที่เสียชีวิตแล้ว

คดีนี้ต้องแยกสำนวนเป็น 4 คดี สำนวนที่ 1 คือเรื่องของการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต, สำนวนที่ 2 คือเรื่องที่ตำรวจวิสามัญคนร้าย, สำนวนที่ 3 คือเรื่องป้องกันตัวของตำรวจ, และสำนวนที่ 4 คือเรื่องที่คนร้ายไปก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ อย่างไรก็ตามหากพี่น้องประชาชนท่านใดพบเห็นรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยตามภาพวงจรปิดช่วยรีบแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน