สืบ 8 รวบเด็กอู่เป็นหัวจ่ายส่งยาชานเมือง ยึดไอซ์ 43 โลยาบ้า 2,000 เม็ด บุหรี่ไฟฟ้ากว่า 800 ชิ้น ตร.คาดอาจเอี่ยวแก๊งรับจำนำรถหาย จ่อประสานป.ป.ส.ยึดทรัพย์เพิ่ม
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 16 มี.ค. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.น. 8 พ.ต.อ.ดุสิต วาลีประโคน รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เสียงใส พ.ต.ท.อชิรเวชชย์ สุพรรณเภสัช พ.ต.ท.ณรรฐพงษ์ มัคเจริญ รอง ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.นัทธพงศ์ แก้วอยู่ ว่าที่ พ.ต.ต.ทรงผล นาคชำนาญ สว.กก.สส.บก.น.8 สั่งการให้ชุดสืบสวนบก.น.8 จับกุมนายกวี หรือต้น อายุ 38 ปี
พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ 43 กิโลกรัม คีตามีน 610 กรัม ยาบ้า 2,000 เม็ด ยาอี 1,000 เม็ด บุหรี่ไฟฟ้า 846 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 823 ชิ้น อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 54 ชิ้น อาวุธปืนยาว ขนาด .22 มม. 1 กระบอก พร้อมลูกกระสุนและแม็กกาซีน รถยนต์ใช้รับและเก็บยาเสพติด 2 คัน จับกุมได้บริเวณปากซอยมหาสวัสดิ์ 14 ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ต่อเนื่องบ้านพัก ม.1 ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม และบริเวณอู่ซ่อมรถยนต์ ม.1 ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
ชุดสืบสวนนครบาล 8 ได้สืบสวนจากกลุ่มผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อนขยายผลถึงต้นทาง จนทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ลักลอบกระจายยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล โดยเป็นกลุ่มที่พักอาศัยอยู่บริเวณ ซ.มหาสวัสดิ์ 14 ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
โดยมีพฤติกรรมไปรับยาเสพติดจำนวนมากมาเก็บซุกซ่อนไว้ภายในรถยนต์ ที่ประกอบกิจการอู่ซ่อมรถยนต์บังหน้า มีนายกวี หรือต้น เป็นผู้ดูแล และจะใช้รถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ทอง ในการรับ-ส่งยาเสพติดให้กับลูกค้า ตามคำสั่งของผู้สั่งการ จึงได้สืบสวนติดตามพฤติกรรมเรื่อยมา
กระทั่งชุดจับกุมได้จัดวางกำลังโดยรอบเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ พบเห็นนายกวี เดินอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมคล้ายจะมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอทำการตรวจค้น พบคีตามีนจำนวนหนึ่ง และกุญแจรถยนต์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นกุญแจรถยนต์ที่ใช้ซุกซ่อนยาเสพติด จึงได้ซักถามขยายผล
จนกระทั่งนายกวียอมรับว่า เพิ่งไปรับยาเสพติดมาจากบริเวณแยกนพวงศ์ ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และนำมาซุกซ่อนไว้ภายในรถยนต์ นิสสัน อเมร่า สีขาว ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ที่ตนเองทำงานเป็นลูกน้องในอู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายกวีไปตรวจค้นที่รถยนต์คันดังกล่าว พบยาไอซ์ จำนวน 43 ถุง หนัก 43 กิโลกรัม คีตามีน หนักประมาณ 610 กรัม ยาบ้า 2,000 เม็ด ยาอี 1,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายกวี ไปตรวจค้นบ้านพัก พบบุหรี่ไฟฟ้า 457 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 334 ชิ้น อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า 54 ชิ้น พร้อมตรวจค้นอู่ซ่อมรถยนต์ที่นายกวีทำงานอยู่ พบบุหรี่ไฟฟ้า 389 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 489 ชิ้น รวมทั้งหมดเจ้าหน้าที่สามารถยึด ยาไอซ์ 43 ถุง คีตามีน หนักประมาณ 610 กรัม ยาบ้า 2,000 เม็ด ยาอี 1,000 เม็ด บุหรี่ไฟฟ้า 846 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 823 ชิ้น อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า 54 ชิ้น อาวุธปืนยาว ขนาด .22 มม. 1 กระบอก พร้อมลูกกระสุนและแม็กกาซีน และรถยนต์ที่ใช้รับ-ส่งและซุกซ่อนยาเสพติด จำนวน 2 คัน
จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาประกอบกิจการรับจำนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ และอู่ซ่อมรถยนต์ บังหน้า เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามได้ง่าย จนสามารถทำการยึดรถยนต์ได้ 10 คัน รถจักรยานยนต์ 20 คัน และเรือเจ็ตสกี 6 ลำ หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว
คาดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับแก๊งรับจำนำรถถูกขโมยด้วย อยู่ระหว่างขยายผล เพื่อดำเนินการแจ้งข้อหา สมคบฯ ฟอกเงิน และประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อดำเนินการตามมาตรการตรวจยึดทรัพย์ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นแจ้งข้อหา 1.“จำหน่าย โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์หรือเมทแอม เฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และจำหน่าย โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน”, 2.“ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งสภ. พุทธมณฑล จ.นครปฐม ดำเนินคดีตามกฎหมาย
