ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์

มูลค่าการส่งออกไทยเดือนมี.ค. ขยายตัวสูงต่อเนื่องที่ 7.1%YOY นำโดยการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลักยังคงเติบโตสอดคล้องกับภาคการผลิตของโลก

อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าเกษตรหดตัวสูงถึง 9.7%YOY จากการส่งออกยางพาราและน้ำตาลที่หดตัวลง 50.2%YOY และ 4.1%YOY ตามลำดับ

ด้านตลาดการส่งออกเติบโตดีในเกือบทุกตลาดส่งออกสำคัญ ยกเว้นการส่งออกไปยังจีนที่หดตัว 8.7%YOY

ทั้งนี้ การส่งออกในไตรมาสแรกปี 2018 เติบโตที่ 11.3%YOY นับเป็นการขยายตัวรายไตรมาสที่สูงที่สุดในรอบ 7 ปี

มูลค่าการนำเข้าเติบโตต่อเนื่องที่ 9.5%YOY จากการนำเข้าสินค้าในกลุ่มสินค้าเชื้อเพลิงที่เติบโตกว่า 13.2%YOY ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ด้านการนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยังขยายตัวกว่า 18.8%YOY ทั้งนี้ การนำเข้าในไตรมาสแรกของปี 2018 เติบโตที่ 16.2%YOY

ดังนั้นจึงปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของมูลค่าการส่งออกปี 2018 อยู่ที่ 7.5% จากเดิมที่ 5% เศรษฐกิจโลกที่ยังขยายตัวได้ดีในปี 2018 ส่งผลให้ความต้องการสินค้าทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย โดยกองทุนเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตปริมาณนำเข้าสินค้าทั่วโลกในปี 2018 อยู่ที่ 5.7%YOY จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวราว 4.3%YOY

ปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุนให้ความต้องการสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อีกทั้งไทยยังได้ต่ออายุสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรหรือ GSP กับสหรัฐ ต่อเนื่องในปี 2018-2020

ในขณะที่ผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่มีต่อไทยยังค่อนข้างจำกัด

นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันอาจได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับคู่ค้าสำคัญ และราคาสินค้าเกษตรบางประเภท เช่น ยางพารา และน้ำตาล ที่ยังตกต่ำ ยังคงเป็นปัจจัยกดดันการส่งออกไทยในระยะต่อไป

ทั้งนี้ แนวโน้มการส่งออกที่ดีขึ้นอาจสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยในปี 2018 เติบโตได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ 4.0%

ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของมูลค่าการนำเข้าปี 2018 อยู่ที่ 12.2% จากเดิมที่ 9.2% โดยเติบโตตามความต้องการสินค้าวัตถุดิบและสินค้าทุน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน