อุตฯ ปาล์มน้ำมันดีขึ้น
คอลัมน์ วงล้อเศรษฐกิจ
อุตฯ ปาล์มน้ำมันดีขึ้น – ในปี 2563 สต๊อกน้ำมันปาล์มโลกมีแนวโน้มลดลง จากความต้องการใช้เพื่อการบริโภคของอินเดีย และจีน อีกทั้งการผลิตไบโอดีเซลของอินโดนีเซียและมาเลเซีย ที่เพิ่ม สูงขึ้นมากกว่าการเพิ่มของผลผลิต
ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยน้ำมันปาล์มโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2,550-2,650 ริงกิตมาเลเซีย/ตัน จากในปี 2562 ที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2,129 ริงกิตมาเลเซีย/ตัน สอดคล้องกับ แนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เพิ่มสูงขึ้น
สำหรับสถานการณ์อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในไทยคาดว่ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ในปี 2563 โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากมาตรการเพิ่มอัตราผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลที่ให้น้ำมัน B10 เป็นน้ำมันเกรดมาตรฐาน และน้ำมัน B7 และ B20 เป็นน้ำมันทางเลือกนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2563 เป็นต้นไป ซึ่งจะหนุนให้สภาวะน้ำมันปาล์มล้นตลาดค่อยๆ คลี่คลายลง โดยคาดว่าราคาเฉลี่ยน้ำมันปาล์มในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 23.0-24.0 บาท/ก.ก. จาก 18.2 บาท/ก.ก. ในปี 2562
สำหรับผลผลิตปาล์มน้ำมันของไทยในปี 2563 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.8 ล้านตัน จาก 16.8 ล้านตันในปี 2562 โดยเป็นผลมาจากการขยายพื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตต่อไร่ที่เพิ่มสูงขึ้นจากต้นปาล์มที่ปลูกไว้มีผลผลิตมากขึ้นตามอายุ
ในส่วนของการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศนั้น คาดว่าการบริโภคในภาคครัวเรือนมีแนวโน้มเติบโตในอัตราชะลอลงเหลือ 0.8%YOY จาก 1.24 ล้านตันในปี 2562 เป็น 1.25 ล้านตันในปี 2563 เนื่องจากประชาชนมีแนวโน้มหันไปบริโภคน้ำมันพืชชนิดอื่น อย่างน้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าน้ำมันปาล์ม
ด้านการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบของไทยในปี 2563 น่าจะอยู่ที่ 0.27 ล้านตัน ลดลงเล็กน้อยจากปี 2562 เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศยังมีแนวโน้มสูงกว่าราคาคู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม ไทยควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในเชิงโครงสร้างให้เกิดการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และการต่อยอดไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลดความเสี่ยงจากความผันผวนด้านราคาจากการขายในรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรพื้นฐาน
