ส่งออกกำลังพ้นจุดต่ำสุด : วงล้อเศรษฐกิจ
มูลค่าการส่งออกไทยเดือน ธ.ค. 2562 หดตัวในอัตราลดลงที่ -1.3%YOY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่หดตัว -7.4%YOY หากหักทองมูลค่าหดตัวเหลือ -0.4% เป็นการหดตัวน้อยที่สุดในรอบ 14 เดือน ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกทั้งปี 2562 (หักมูลค่าการส่งกลับอาวุธในเดือน ก.พ. 2562) หดตัวที่ -3.4%
สินค้าส่งออกสำคัญที่ทำให้การส่งออกเดือน ธ.ค. ปรับดีขึ้น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์, อุปกรณ์กึ่งตัวนำ และจักรยานยนต์ อย่างไรก็ดีมูลค่าการส่งออกของหลายสินค้าสำคัญยังหดตัว เช่น ข้าว (-41.1%YOY) เนื่องจากราคาข้าวไทยยังสูงกว่าคู่แข่ง, รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (-14.6%YOY) ที่ยังได้รับผลกระทบจากตลาดรถยนต์โลกที่ซบเซา และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน (-12.6%YOY)
ในส่วนของมูลค่าการนำเข้าพลิกกลับมาขยายตัวที่ 2.5% YOY จากเกือบทุกหมวดสำคัญ นำโดยมูลค่านำเข้าสินค้า เชื้อเพลิงขยายตัวที่ 0.4%YOY ขณะที่การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบขยายตัว 0.4%YOY โดยทั้งปี 2562 มูลค่าการนำเข้าหดตัวที่ -5.5% และดุลการค้าเกินดุลที่ 9,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ มองว่าการส่งออกไทยกำลังผ่านพ้นจุดต่ำสุด (Bottoming out) สะท้อนจากการปรับตัวดีขึ้นของการส่งออกทั้งในภาพรวมและรายสินค้าสำคัญ โดยในภาพรวมการส่งออกของไทยมีการหดตัวน้อยลงซึ่งล่าสุดในเดือนธ.ค. 2562 การส่งออกหดตัวเพียง -1.3% และหากพิจารณาลงรายละเอียด ก็จะพบว่า สินค้าส่งออกที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของจีนซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสะท้อนจากการหดตัวของการส่งออกสินค้าเหล่านั้นไปที่จีนในช่วงที่ผ่านมานั้น เริ่มกลับมาขยายตัวได้ในช่วง 1-3 เดือนหลัง (ต.ค.-ธ.ค. 2562)
นอกจากนี้ หากพิจารณาสัดส่วนสินค้าส่งออกไทยที่หดตัว ก็จะเห็นได้ว่ามีการปรับลดลงต่อเนื่อง สะท้อนภาพรวมของการส่งออกไทยที่เริ่มปรับดีขึ้น โดยในระยะต่อไป คาดว่าการส่งออกมีแนวโน้มปรับดีขึ้นอย่างช้าๆ โดยอาจเป็นการหดตัวที่ลดลง และพลิกกลับมาเป็นบวกได้เล็กน้อย
อย่างไรก็ดี ภาวะการส่งออกของไทยปี 2563 ยังมีหลายปัจจัยกดดันและความเสี่ยง เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจ คู่ค้าหลักของไทย ภาวะสงครามการค้าที่ยังคงกดดันการค้าโลกแม้จะมีข้อตกลงระยะแรก และเงินบาทที่ยังแข็งค่าต่อเนื่อง จึงทำให้ยังคงคาดการณ์ว่า การส่งออกจะขยายตัวเล็กน้อย ที่ 0.2%
