คาดกนง.ลดดอกเบี้ย

คอลัมน์ วงล้อเศรษฐกิจ

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

คาดกนง.ลดดอกเบี้ย – ภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2563 ยังเผชิญความเสี่ยงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ในไตรมาสแรกของปี 2563 ประเด็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยที่เพิ่มเติมมาในจังหวะเวลาที่ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 มีแนวโน้มล่าช้าในการบังคับใช้ ทำให้เครื่องมือทางการคลังจะยังไม่สามารถเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อย่างเต็มที่ จึงต้องอาศัยนโยบายการเงิน ให้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวพยุงเศรษฐกิจไทย

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาล่าสุดที่แม้ว่าผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง แต่ภาคการท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบจากรายได้ที่หายไปแล้วในช่วงเดือนม.ค. และ ก.พ. 2563 ซึ่งประเมินว่า รายได้จากการท่องเที่ยวจะหายไปไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 0.5% ของจีดีพี นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยภาวะภัยแล้งที่กดดันกำลังซื้อของเกษตรกร และการเบิกจ่ายงบลงทุนที่ยังต้องรอเม็ดเงินใหม่ๆ จากงบประมาณประจำปี 2563

จากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่เจอปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้น ในจังหวะเวลาพร้อมกัน ประเมินว่า ในการประชุม กนง. ในวันที่ 5 ก.พ.นี้ คณะกรรมการคงพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีกอย่างน้อย 0.25%

ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายการเงินในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสามารถทำได้หลายรูปแบบ ทั้งการเลือกขนาดและจังหวะเวลาในการปรับลดดอกเบี้ย หรือการใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆ เข้ามาเสริม ซึ่งการตัดสินใจในแต่ละทางเลือกคงขึ้นอยู่กับการประเมินภาพสถานการณ์เศรษฐกิจไทยถึงความจำเป็นและเร่งด่วน รวมถึงการชั่งน้ำหนักของผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบในแต่ละทางเลือกอย่างรอบคอบ

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่คณะกรรมการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยว่ามีความจำเป็นและเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ทางเลือกในการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายมี 2 แนวทาง ได้แก่ ทางเลือกแรก พิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบเดือนก.พ. ลง 0.25% และพิจารณาปรับลดเพิ่มเติม ในการประชุมรอบเดือนมี.ค. อีก 0.25%

หรือ ทางเลือกที่สอง พิจารณาปรับลดลงในคราวเดียวกันได้ถึง 0.50% จากระดับปัจจุบันที่ 1.25% มาอยู่ที่ 0.75% ต่อปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน