โคโรนาซัดศก.อาเซียน

คอลัมน์ วงล้อเศรษฐกิจ

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

โคโรนาซัดศก.อาเซียน – การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ฉุดรั้งเศรษฐกิจจีนให้เติบโตชะลอลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในอาเซียนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน โดยผ่านทาง 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ ช่องทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

คาดว่า หากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยืดเยื้อยาวนานเกิน 3 เดือน (แต่ไม่เกิน 6 เดือน) เศรษฐกิจจีนอาจเติบโตต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ราว 1.0% และอาจลงไปแตะที่ระดับประมาณ 4.7% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอาเซียนคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.4-3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 0.07-0.11% ของ GDP อาเซียนทั้งหมด โดยในส่วนของประเทศไทย ผลกระทบอาจอยู่ในระดับปานกลาง

ทั้งนี้ ผลกระทบของการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนต่อแต่ละประเทศขึ้นอยู่กับสัดส่วนการพึ่งพาเศรษฐกิจจีนของแต่ละประเทศเป็นหลัก ซึ่งหากพิจารณาถึงสัดส่วนการพึ่งพาเศรษฐกิจจีนของประเทศในกลุ่มอาเซียนจะพบว่า เวียดนาม สิงคโปร์ สปป.ลาว และกัมพูชา มีสัดส่วนการพึ่งพาจากจีนในระดับสูง ขณะที่ในส่วนของไทย สัดส่วนการพึ่งพาจากจีนอยู่ในระดับปานกลาง

สำหรับกรณีของไทย คาดการณ์ว่า หากเศรษฐกิจจีนเติบโตลดลง 1.0% จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยในกรอบประมาณ 500-700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 0.09-0.13% ของ GDP ทั้งปีของไทย โดยภาคการส่งออกของไทยได้รับผลกระทบสูงสุดถึงราว 300-400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจีนถือเป็นตลาดส่งออกขนาดใหญ่อันดับ 2 ของไทยรองจากสหรัฐ โดยมูลค่าการส่งออกของไทยไปยังจีนในปี 2562 สูงถึง 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ ภาคการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบรองลงมา โดยภาคการท่องเที่ยวของไทยมีสัดส่วนรายได้ที่มาจาก นักท่องเที่ยวจีนถึงราว 30% ในทางตรงกันข้าม ไทยพึ่งพาการลงทุนจากจีนในสัดส่วนไม่มากนัก ดังนั้น ผลกระทบโดยตรงของการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนต่อการลงทุนในไทยจึงไม่สูงนัก

ทั้งนี้ ผลกระทบดังกล่าวไม่รวมผลกระทบทางอ้อมจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ต่างได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน