ตลาดไทยเที่ยวไทยทรุด

คอลัมน์ วงล้อเศรษฐกิจ

ตลาดไทยเที่ยวไทยทรุด – สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศดีขึ้น เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง และในหลายจังหวัดไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นระยะเวลาหลายวันติดต่อกัน นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชน และหากประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ กิจกรรมการดำเนินชีวิตประจำวันและธุรกิจก็น่าจะทยอยกลับมาตามลำดับ

แต่สำหรับภาคการท่องเที่ยวในประเทศ ต้องยอมรับว่าการระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในห่วงโซ่การท่องเที่ยวอย่างหนัก จากการลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย

จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 นี้ จำนวนคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศหดตัวถึง 29.5% (YoY) และส่งผลให้รายได้ท่องเที่ยวจากคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศหายไปแล้ว กว่า 90,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ซึ่งอาจทำให้กิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยน่าที่จะค่อยๆ กลับมา แต่ตลาดในช่วงที่เหลือของปีนี้ก็คงจะยังไม่สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้

เนื่องจากยังมีหลายปัจจัยลบ อาทิ นักท่องเที่ยวยังมีความกังวลเพราะยังไม่มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมถึงผลกระทบจากความเชื่อมั่นต่อการมีงานทำและกำลังซื้อที่อ่อนแอของประชาชน หลังกิจกรรมเศรษฐกิจส่วนใหญ่หยุดชะงัก

คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ตลาดไทยเที่ยวไทยน่าจะยังหดตัวประมาณ 52.4% ถึงหดตัวประมาณ 41.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

จึงทำให้ทั้งปี 2563 ตลาดไทยเที่ยวไทยอาจหดตัวประมาณ 52.3% ถึงหดตัวประมาณ 46.4% หรือมีจำนวน 79.5-89.5 ล้านคน-ครั้ง ขณะที่รายได้ท่องเที่ยวจากไทยเที่ยวไทยน่าจะมีมูลค่า 4.85-5.45 แสนล้านบาท หดตัวประมาณ 55.1% ถึงหดตัวประมาณ 49.4% จากปีก่อน (การประเมินอยู่ภายใต้สมมติฐานที่โควิค-19 ไม่กลับมาระบาดอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้)

อย่างไรก็ดี คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ผู้ประกอบการคงจะทำการตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกันยังต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาครัฐน่าจะทยอยออกมาหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งอาจจะช่วยให้ตลาดไทยเที่ยวไทยปรับตัวดีขึ้นบ้าง

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด